ค้นเจอ 12 รายการ

แตกม้าง

หมายถึงแตกกระจัดกระจาย, แตกหักเสียหาย

แตกวึ่นๆ

หมายถึงคับคั่งหนาแน่น , คนเยอะ ,แตกตื่น

กระจวน

หมายถึงผง, เกสร อย่างว่า นางก็เอากระจวนจันทน์คันธรส บดแหลกยิ่งหนักหนา ไปถวายบูชาพระพุทธเจ้า (เวส) เหมือยเร่งล้นพรมพั้วกาบกระจวน (สังข์). แตก, ไหม้, ละเอียด อย่างว่า ตัดแผ่นพื้นผาล้านมุ่นกระจวน (กา) เวียงใหญ่กว้างไฟไหม้มุ่นกระจวน (กาไก) เห็นมารเหยียดคู้คำโศกถือทวน คึดเมื่อยามเฮียงสมชอบคนิงมโนแค้น คีงแข็งกร้าวตีนมือทำถีบ ผ้าแผ่นปลิ้นกระจวนล้านเลือดนอง (สังข์).

ลายต่าง

หมายถึงแตกต่างอย่างสิ้นเชิง หรือ เปลี่ยนแปลงไป

กงสะเด็น

หมายถึงชื่อพรรณไม้ชนิดหนึ่งมีผล เวลาผลแก่เต็มที่ผลจะแตกกระเด็นตกไปในที่ไกล เรียก ต้นกงสะเด็น

ขี้ชี

หมายถึงชัน ชันเรียก ขี้ชี ยางไม้จิกไม้ฮังที่ห้อยแขวนอยู่ตามต้นหรือกิ่ง เรียก ขี้ชี เอายางนี้มาป่นให้ละเอียดผสมน้ำมันยาง ทาคุ ทาอุแอ่งที่แตก ทาเรือที่แตกหรือรั่ว.

หมัน

หมายถึงเชือกหรือผ้าเศษที่ชุบน้ำมันยางสำหรับอุดรูรั่วของเรือที่แตกเป็นแนวยาวและกว้างเรียก ตอกหมันเฮือ.

มุ่น

หมายถึงแหลก ละเอียด ตำจนแตกละเอียดเรียก มุ่น มุ่นมิน ก็ว่า อย่างว่า มันก็แข็งใจตั้งเขียวดวเดินฟั่ง สะดุดด่วนต้องผาม้างมุ่นมิน (สังข์).

อนันตริยกรรม

หมายถึงกรรมที่มีโทษหนักที่สุด ห้ามสวรรค์ห้ามนิพพาน ตกนรกหมกไหม้หาระหว่างมิได้ อนันตริยกรรมมี ๕ อย่าง คือ ฆ่าพ่อ ฆ่าแม่ ฆ่าพระอรหันต์ ทำสงฆ์ให้แตกจากกัน ทำโลหิตุบาท (ป.).

ไง่

หมายถึงฟุ้ง, กระจาย, ปลิว ฝุ่นผงหรือละอองที่ปลิวไป เรียก ไง่ ไง่จนมองไม่เห็นเรียก ไง่ง้อง อย่างว่า เป็นไง่ง้องคือฟ้าเง่าฝน (กา) ต้นไม่ใหญ่บ่มีผี สาวผู้ดีบ่มีชู้บ่อกแตกสารือ ตาแฮกเปิดไก้ต้ม ดินชิแห้งไง่ผง (กลอน) คึดต่อคนตายนี้บ่มีทางชิเห็นไง่ คือดั่งไฟมอดแล้วใผชิ

ใหญ่

หมายถึงโต ไม่เล็ก โต เรียก ใหญ่ ลูกคนโต เรียก ลูกผู้ใหญ่ บ้านที่กว้างขวาง เรียก บ้านใหญ่ สิ่งของขนาดใหญ่ เรียก ใหญ่ อย่างว่า สองนายตั้งปานโตงเหล้าใหญ่ ชอบที่วอนพี่ผู้คีงค้อมค่อยเอา (ฮุ่ง) ยุ่งเหยิงมาก เรียก หยุ้งใหญ่ อย่างว่า ต้นไม้ใหญ่บ่มีผีสาวผู้ดีบ่มีชู้ธรณีบ่อกแตกสารือ ตาแฮกเปิดไก่ต้มดินชิแห้งไง่ผง (ผญา).

ผักติ้ว

หมายถึงจัดเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดกลาง มีความสูงของต้นเฉลี่ยประมาณ 3-12 เมตร และอาจสูงได้ถึง 35 เมตร เรือนยอดเป็นทรงพุ่มกลม โคนต้มมีหนาม กิ่งก้านเรียว ส่วนกิ่งอ่อนมีขนนุ่มอยู่ทั่วไป เปลือกลำต้นเป็นสีน้ำตาลแดง แตกล่อนเป็นสะเก็ด ส่วนเปลือกด้านในเป็นสีน้ำตาลแกมเหลือง ลำต้นมีน้ำยางสีเหลืองปนแดงซึมออกมาเมื่อถูกตัดหรือเกิดแผล ขยายพันธุ์วิธีการใช้เมล็ด เป็นต้นไม้ที่ทนแล้งได้ดี พบได้ทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และทางภาคใต้ตอนเหนือ โดยจะขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าโปร่ง ป่าเต็งรัง ป่าตามเชิงเขา และตามป่าเบญจพรรณ

 ภาษาอีสาน จัดกลุ่มตามตัวอักษร ก-ฮ