พุทธสุภาษิต

พุทธสุภาษิต

ภิกษุรู้โทษอย่างนี้ว่า ตัณหาเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์แล้ว พึงเป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น และมีสติอยู่ทุกอิริยาบถเถิด

 ภาพประกอบ

  • ภิกษุรู้โทษอย่างนี้ว่า ตัณหาเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์แล้ว พึงเป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น และมีสติอยู่ทุกอิริยาบถเถิด หมายถึง? พุทธสุภาษิตในกลุ่ม หมวดกิเลส, หมวดหมู่ หมวดกิเลส หมวด หมวดกิเลส

 พุทธสุภาษิตที่คล้ายกัน

คนที่เห็นแต่โทษผู้อื่น คอยแต่เพ่งโทษนั้น อาสวะก็เพิ่มพูน เขายังไกลจากความสิ้นอาสวะ ความไม่รู้ เป็นมลทินร้ายที่สุด ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย คำว่า บุญ นี้เป็นชื่อของความสุข ผู้มีปัญญา ถึงพร้อมด้วยความรู้ ฉลาดในวิธีจัดการงาน รู้กาลและรู้สมัย เขาพึงอยู่ในราชการได้ ผู้ใดรู้โทษที่ตนล่วงละเมิด 1 ผู้ใดย่อมรับรู้โทษ ที่เขามาสารภาพ 1 คนทั้งสองนี้ย่อมพร้อมเพรียงกันยิ่งขึ้น มิตรภาพของเขาย่อมไม่เสื่อมคลาย ภิกษุทั้งหลาย เรากล่าวเจตนาว่าเป็นกรรม ภิกษุผู้ถอนภวตัณหาได้แล้ว มีจิตสงบแล้ว สิ้นความเวียนเกิดแล้ว ย่อมไม่มีภพอีก ศีล พึงรู้ได้ด้วยการอยู่ร่วมกัน ศีลพึงรู้ได้เมื่ออยู่ร่วมกัน อย่ามาถึงกรรมอันมีโทษเลย เมื่อมีความเสื่อม ก็เกิดโทษประดัง โทษคนอื่น เห็นง่าย แต่โทษตนเองเห็นยาก

หาคำศัพท์ไม่เจอ หรือยังไม่เห็นคำที่ต้องการ?

ช่วยแนะนำคำใหม่ให้เราสิ
แจ้งเพิ่มคำ

 ความคิดเห็นในหัวข้อ "ภิกษุรู้โทษอย่างนี้ว่า ตัณหาเป็นแดนเกิดแห่งทุกข์แล้ว พึงเป็นผู้ปราศจากตัณหา ไม่ถือมั่น และมีสติอยู่ทุกอิริยาบถเถิด"

 พุทธสุภาษิต จัดกลุ่มตามตัวอักษร ก-ฮ

 บทความอื่น ๆ จาก "Wordy Guru"

 พุทธสุภาษิตที่แนะนำมาใหม่