ผลการค้นหา

ของขวัญอันล้ำค่า ที่เราสามารถมอบให้ผู้อื่นได้ ก็คือ ตัวอย่างที่ดี

แปลว่าเหตุว่าเราได้มอบแบบอย่างให้แก่ท่านแล้ว ทั้งนี้เพื่อ ให้ท่านทำดังที่เราได้กระทำแก่ท่าน

การให้อภัยคล้ายกับเป็นการปล่อยนักโทษให้เป็นอิสระ แล้วมาพบว่า นักโทษนั้นก็คือ ตัวคุณเอง

แปลว่าหากท่านให้อภัยผู้ที่กระทำผิดต่อท่าน พระบิดาเจ้าก็จะทรงให้อภัยท่านด้วย แต่หากท่านไม่ให้อภัยผู้อื่น พระบิดาของท่านก็จะไม่ทรงให้อภัยแก่ท่านเช่นกัน

มรดกอันประเสริฐที่บิดามอบให้บุตร ก็คือ ตัวอย่างที่ดี ท่านก็ทราบดีแล้วว่า เราได้กระทำทุกอย่างเพื่อท่าน ดังบิดามารดา พึงกระทำต่อบุตรหลานของตน (1เธสสะโลนิกา 2:11)

แปลว่าพระเป็นเจ้าจะทรงเข้ามาสาละวนกับเรื่องของมนุษย์ ก็ต่อเมื่อพระองค์ได้รับเชิญเท่านั้น. ดูเถิด เรายืนอยู่และเคาะที่ประตูของท่าน หากท่านได้ยินเสียงของเราแล้วเปิดประตู เราก็จะเข้ามาร่วมรับประทานอาหารกับท่าน

ก้าวแรกที่นำไปสู่ความฉลาดก็คือ ความเงียบ ก้าวที่สอง คือ การรับฟัง

แปลว่าทั้งปราชญ์จะได้ยิน และเพิ่มพูนการเรียนรู้ ส่วนคนที่มีความเข้าใจ จะได้มีความช่ำชอง

การเตรียมการเพื่อวันพรุ่ง ก็คือการมุ่งให้วันนี้ถูกต้อง

แปลว่าอย่าไปห่วงใยถึงวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้จะดูแลตัวของมันเอง เฉพาะวันนี้ ท่านก็มีเรื่องจะต้องห่วงใยพออยู่แล้ว

หนทางที่ดีที่สุดที่จะลืมปัญหาของตนเอง ก็คือการช่วยแก้ปัญหาให้ผู้อื่น

แปลว่ามนุษย์ อย่ามองเพียงปัญหาของตนเอง แต่ทุกคนควรมองดูปัญหาของผู้อื่น

ปัญหาของผู้ที่พูดเร็วเกินไปก็คือ เขามักจะพูดสิ่งที่เขายังคิดไม่ถึง

แปลว่าอย่ารีบพูด อย่าให้ใจท่านด่วนกล่าวสิ่งใดต่อพระพักต์พระเป็นเจ้า เหตุว่าพระเป็นเจ้าประทับในสวรรค์และเจ้าอยู่ในโลก ฉะนั้นขอให้เจ้าจงพูดน้อย

สมบัติอันล้ำค่าของท่านก็คือ เวลา 24 ชั่วโมง ที่กำลังรอท่านอยู่

แปลว่าข้าพเจ้ารำพึงในใจของข้าพเจ้าว่า พระเจ้าจะทรงพิพากษาคนชอบธรรม และคนอธรรม เพราะทุกเรื่องถูกกำหนดไว้ และการงานทุกอย่างก็ถูกกำหนดไว้ด้วย

บทเรียนจากการมองดูนาฬิกาก็คือ มันทำให้เวลาผ่านไปก็จริง แต่มันขยันทำงานตลอดเวลา

แปลว่าการเป็นคนเกียจคร้าน ก็ไม่แตกต่างอะไรกับคนที่ชอบทำลาย

สะพานเชื่อมที่ดีเลิศระหว่างความหวัง กับ ความหมดหวัง ก็คือ การนอนหลับให้เต็มอิ่ม

แปลว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะตื่นเช้า นอนดึก เพื่อทำมาหาเลี้ยงชีพ พระเป็นเจ้าทรงดูแลผู้ที่พระองค์ทรงรัก แม้ในยามที่เขานอนหลับ