ตัวกรองผลการค้นหา
กำปั้นทุบดิน
หมายถึงการพูดแบบกว้าง ๆ อาจจะตรงประเด็นหรือไม่ตรง เป็นการตอบที่ไม่ใช่คำตอบที่ผิด แต่เป็นการตอบที่ไม่ได้ประโยชน์แก่ผู้ฟัง
คนตายขายคนเป็น
หมายถึงการจัดงานศพให้แก่ผู้ตายอย่างใหญ่โตทั้งที่ผู้อยู่ข้างหลังยากจนไม่มีเงิน หรือต้องไปกู้เงินมาจนเป็นหนี้สิน
สี่เท้ายังรู้พลาดนักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
หมายถึงคนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้
ตักบาตรถามพระ
หมายถึงจะให้อะไรสักอย่างหนึ่งแก่ผู้อื่นในเมื่อผู้นั้นเต็มใจรับอยู่แล้วไม่ต้องถามว่าจะเอาหรือไม่เอาเมื่อจะให้ก็ให้ทีเดียวเหมือนกับถวายอาหารพระพระท่านจะรับของทุกอย่างไม่มีการปฏิเสธ
เฒ่าหัวงู
หมายถึงคนแก่หรือคนมีอายุมากที่มีนิสัยเจ้าชู้ มีเล่ห์เหลี่ยม ชอบใช้กลอุบาย หลอกล่อเด็กสาวไปบำเรอความสุข ในทางกามารมณ์
คนสามขามีปัญญาหาไว้ทัก ที่ไหนหลักแหลมคำจงจำเอา
หมายถึงผู้เฒ่าผู้แก่หรือผู้สูงอายุนับว่าเป็นผู้ผ่านโลกมาก่อน ย่อมมีประสบการณ์มาก จะทำสิ่งใดจึงควรขอคำแนะนำ
เฒ่ามะละกอ
หมายถึงยิ่งแก่ยิ่งไร้แก่นสาร เหมือนผลมะละกอที่ทั้งเละทั้งกลวง ลำต้นไม่มั่นคงโค่นล้มได้ง่าย เปรียบกับคนที่ไร้สาระ ไม่มีเป้าหมายไม่มั่นคง
ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ
หมายถึงลูกผู้ชายที่ชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ จะต้องสำแดงวิชาความรู้และความสามารถให้ลือชาปรากฏแก่คนทั่วไป ดุจเสือ (ลายพาดกลอน) ก็ต้องมีลายฉะนั้น
ดูช้างให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่
หมายถึงให้รู้จักพิจารณาลักษณะบุคคลหรือผู้หญิงที่จะเลือกเป็นคู่ครอง
น้ำท่วมปาก
หมายถึงการรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ พูดไม่ออกไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่างหรือเพราะเกรงจะมีภัยมาถึงตนเองแก่ตนหรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย รู้แล้วพูดออกมาไม่ได้ รู้สึกอึดอัด เหมือนน้ำท่วมปาก
คลุมถุงชน
หมายถึงลักษณะที่ทั้ง 2 ฝ่ายมาเผชิญกันทั้งที่ไม่เคยเห็นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน มักใช้แก่ประเพณีแต่งงานสมัยก่อนที่พ่อแม่เป็นผู้จัดการให้โดยที่เจ้าตัวไม่เคยรู้จักหรือรักกันมาก่อนเหมือนแกมบังคับให้โดนจับคู่กัน
สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง
หมายถึงคนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้ ภาษิตนี้บางทีก็มีพูดต่อไปอีกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองตีนโด่เด่ คงจะเซลงบ้าง”