บทความน่ารู้

สำนวนไทยพร้อมความหมาย

พูดถึงสำนวนคนไทยเองก็ได้สร้างสรรค์สำนวนหรือวลีแทนประโยคที่ต้องการจะสื่อได้อย่างน่าสนใจและเกิดภาพให้เข้าใจ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูกันเลยมีสำนวนใดบ้างที่อาจจะคุ้นหูคุ้นตา
พูดถึงสำนวนคนไทยเองก็ได้สร้างสรรค์สำนวนหรือวลีแทนประโยคที่ต้องการจะสื่อได้อย่างน่าสนใจและเกิดภาพให้เข้าใจ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูกันเลยมีสำนวนใดบ้างที่อาจจะคุ้นหูคุ้นตา

มาพบกันอีกครั้งกับสาระความรู้ดี ๆ ที่เรานำมาฝากกันในวันนี้

ซึ่งวันนี้เราจะขอพูดถึงเรื่อง สำนวนไทย ให้ผู้อ่านและผู้ที่สนใจได้นำไปศึกษากัน

พูดถึงสำนวนคนไทยเองก็ได้สร้างสรรค์สำนวนหรือวลีแทนประโยคที่ต้องการจะสื่อได้อย่างน่าสนใจและเกิดภาพให้เข้าใจ ถ้าอย่างนั้นลองมาดูกันเลยมีสำนวนใดบ้างที่อาจจะคุ้นหูคุ้นตา

 

สำนวนไทยที่ใช้บ่อย พร้อมความหมาย

สำนวนไทย คือ คำที่พูดออกมาในลักษณะเปรียบเทียบ และจะฟังไม่เข้าในในทันทีต้องแปลความหมายให้เข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ก่อนถึงจะทราบถึงความหมายและแนวสอนของคำสำนวนนั้น ๆ

กินน้ำใต้ศอกหมายถึง จําต้องยอมเป็นรองเขา, ไม่เทียมหน้าเทียมตาเท่า (มักหมายถึงเมียน้อยที่ต้องยอมลงให้แก่เมียหลวง)
กินน้ำพริกถ้วยเก่าหมายถึง อยู่กับภรรยาคนเดิม
กินน้ำเห็นปลิงหมายถึง รู้สึกตะขิดตะขวงใจ (เหมือนจะกินน้ำเห็นปลิงอยู่ในน้ำก็กินไม่ลง)
กลิ้งครกขึ้นภูเขาหมายถึง เรื่องที่ตนกำลังจะทำนั้นถ้าจะทำให้สำเร็จนั้นทำได้ยากลำบาก จึงต้องใช้ความพยายามและความสามารถอย่างมาก
กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้หมายถึง ลักษณะของการทำงานที่มีความลังเลใจ ทำให้แก้ไขปัญหาได้ไม่ทันท่วงทีเมื่อได้อย่างหนึ่ง แต่ต้องเสียอีกอย่างหนึ่งไป ดุจเอาถั่วกับงามาคั่วพร้อมกัน กว่าจะคั่วจนถั่วสุก งาก็จะไหม้หมดไปก่อน
กำขี้ดีกว่ากำตดหมายถึง ได้บ้างดีกว่าไม่ได้อะไรเลย
เก็บเบี้ยใต้ถุนร้านหมายถึง เก็บเล็กผสมน้อย, ทําอะไรที่ประกอบด้วยส่วนเล็กส่วนน้อย โน่นบ้างนี่บ้าง จนสําเร็จเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
แกว่งเท้าหาเสี้ยนหมายถึง คนที่เข้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่นทั้ง ๆ ที่ไม่จำเป็น จนทำให้ตัวเองได้รับความเดือนร้อน
ใกล้เกลือกินด่างหมายถึง สิ่งที่หาได้ง่ายหรืออยู่ใกล้ตัวที่มีคุณค่ากว่า กลับไม่เอา แต่กลับไปเอาสิ่งที่อยู่ไกลหรือหายาก แต่มีคุณค่าด้อยกว่ามาใช้
ขี่ช้างจับตั๊กแตนหมายถึง ลงทุนมากแต่ได้ผลเพียงเล็กน้อย
ขว้างงูไม่พ้นคอหมายถึง ทําอะไรแล้วผลร้ายกลับมาสู่ตัวเอง
ข้าวใหม่ปลามันหมายถึง อะไรที่เป็นของใหม่ก็ถือว่าดี, นิยมเรียกช่วงเวลาที่สามีภรรยาเพิ่งแต่งงานกันใหม่ ๆ ว่า ระยะข้าวใหม่ปลามัน
ขุดบ่อล่อปลาหมายถึง ทำกลอุบายให้เขาเชื่อเพื่อหวังผลประโยชน์
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามหมายถึง ประพฤติตนตามที่คนส่วนใหญ่ประพฤติกัน
แขกไม่ได้รับเชิญหมายถึง คนหรือสัตว์ที่ไม่พึงปรารถนาซึ่งเข้ามาทำให้เกิดความเสียหายหรือเดือดร้อนรำคาญ
ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกหมายถึง เรื่องราวที่เกิดเดือนร้อนขึ้นมา กำลังมีปัญหาและแก้ไขอยู่ ก็เกิดมีปัญหาใหม่เพิ่มเข้ามา
ความรู้ท่วมหัวเอาตัวไม่รอดหมายถึง มีความรู้มากแต่ไม่รู้จักใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์
คอหอยกับลูกกระเดือกหมายถึง เข้ากันได้ดี แยกกันไม่ออก
ฆ้องปากแตกหมายถึง ปากโป้ง, เก็บความลับไม่อยู่, ชอบนำความลับของผู้อื่นไปเปิดเผย
ฆ่าควายอย่าเสียดายพริกหมายถึง ทำการใหญ่ไม่ควรตระหนี่
จับงูข้างหางหมายถึง ทำสิ่งที่เสี่ยงต่ออันตราย
จับตัววางตายหมายถึง กำหนดลงไปแน่นอนไม่เปลี่ยนแปลง
จับเสือมือเปล่าหมายถึง หาผลประโยชน์โดยตัวเองไม่ลงทุน
เจ้าไม่มีศาล สมภารไม่มีวัดหมายถึง ผู้ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์หมายถึง ปล่อยไปตามเรื่องราว ไม่เอาเป็นธุระ
เชื้อไม่ทิ้งแถวหมายถึง เป็นไปตามเผ่าพันธุ์
ซื่อเหมือนแมวนอนหวดหมายถึง ทำเป็นซื่อ
ซื้อควายหน้านา ซื้อผ้าหน้าตรุษหมายถึง ซื้อของไม่คำนึงถึงเวลาหรือฤดูกาลย่อมได้ของที่มีราคาแพง
ดินพอกหางหมูหมายถึง คั่งค้างพอกพูนขึ้นเรื่อย ๆ
เด็ดบัวไม่ไว้ใยหมายถึง ตัดขาดกัน, ตัดญาติขาดมิตรกันเด็ดขาด
ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้หมายถึง ตกอยู่ในที่คับขันอย่างไรก็ไม่เป็นอันตราย, ตกอยู่ที่ใดก็ไม่สูญหาย
ตักบาตรอย่าถามพระหมายถึง จะให้อะไรแก่คนอื่น อย่าไปถามเขาว่าเอาไหม อยากได้ไหม
ตัดหางปล่อยวัดหมายถึง ตัดขาดไม่เกี่ยวข้อง
ตบมือข้างเดียวไม่ดังหมายถึง ทำอะไรฝ่ายเดียวย่อมไม่เกิดผล
เตี้ยอุ้มค่อมหมายถึง คนจนแต่รับเลี้ยงดูคนที่ต่ำต้อยจนเหมือนกัน
ถอนต้นก่นรากหมายถึง ทำลายให้ถึงต้นตอ
ถอนหงอกหมายถึง ไม่นับถือความเป็นผู้ใหญ่
ที่เท่าแมวดิ้นตายหมายถึง ที่ดินหรือเนื้อที่เล็กน้อย
ทำนาอ้อมกล้า ทำปลาอ้อมเกลือหมายถึง ทำการสิ่งใดถ้ากลัวหมดเปลืองย่อมไม่ได้ผล
นกรู้หมายถึง ผู้ที่มีไหวพริบรู้เท่าทันเหตุการณ์หรือภัยที่จะมาถึงตน
นั่งในหัวใจหมายถึง รู้ใจ, ทำถูกต้องตรงตามที่ผู้อื่นคิดไว้
น้ำตาตกในหมายถึง เศร้าโศกเสียใจอย่างมาก แต่ไม่แสดงให้คนอื่นเห็น
บอกเล่าเก้าสิบหมายถึง บอกกล่าวให้รู้
บอกหนังสือสังฆราชหมายถึง สอนสิ่งที่เขารู้ดีอยู่แล้ว
บ้าหอบฟางหมายถึง บ้าสมบัติ เห็นอะไร ๆ เป็นของมีค่าก็จะเอาทั้งนั้น หรือ อาการถือเอาสิ่งของ หอบหิ้วสิ่งของพะรุงพะรัง
เบี้ยบ้ายรายทางหมายถึง เงินที่จะต้องใช้จ่ายหรือเสียไปเรื่อย ๆ เป็นระยะ ๆ ในขณะทำธุรกิจอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จ
ปรานีตีเอาเรือหมายถึง เอ็นดูหรือเผื่อแผ่เขาแต่กลับถูกประทุษร้ายตอบ
ปลาติดหลังแหหมายถึง คนที่พลอยได้รับเคราะห์กรรมร่วมกับผู้อื่นทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีส่วนพัวพันด้วย
ปากว่าตาขยิบหมายถึง พูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง ปากกับใจไม่ตรงกัน
ปากหวานก้นเปรี้ยวหมายถึง พูดจาอ่อนหวานแต่ไม่จริงใจ
ผ้าขี้ริ้วห่อทองหมายถึง คนมั่งมีแต่แต่งตัวซอมซ่อ
ผีซ้ำด้ำพลอยหมายถึง ถูกซ้ำเติมเมื่อพลาดพลั้งลงหรือเมื่อคราวเคราะห์ร้าย
ผีถึงป่าช้าหมายถึง ต้องยอมทำ เพราะจำใจหรือไม่มีทางเลือก
พอก้าวขาก็ลาโรงหมายถึง ชักช้าทำให้เสียการ
พออ้าปากก็เห็นลิ้นไก่หมายถึง รู้ทันกัน ไม่มีทางจะโกหก หลอกกันได้
พูดเป็นต่อยหอยหมายถึง พูดฉอด ๆ ไม่หยุดปาก เม้าท์เก่ง
พูดอย่างมะนาวไม่มีน้ำหมายถึง พูดห้วน ๆ
ฟังไม่ได้ศัพท์ จับไปกระเดียดหมายถึง ฟังไม่ได้ความแน่ชัดแล้วเอาไปพูดต่อหรือทำผิด ๆ พลาด ๆ
ฟ้าไม่กระเทือนสันหลังหมายถึง อำนาจเบื้องบนหรือผู้ปกครองยังไม่ลงโทษทัณฑ์, ถ้าฟ้าไม่กระเทือนสันหลังก็ยังไม่รู้สึก
มะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูกหมายถึง พูดจาตลบตะแลงพลิกแพลงไปมาจนจับคำพูดไม่ทัน
มะพร้าวตื่นดกหมายถึง เห่อหรือตื่นเต้นในสิ่งที่ตนไม่เคยมีไม่เคยได้จนเกินพอดี
มัดมือชกหมายถึง บังคับหรือใช้วิธีการใด ๆ ให้อีกฝ่ายหนึ่งตกอยู่ในภาวะจำยอมโดยไม่มีทางต่อสู้
แม่สายบัวแต่งตัวค้างหมายถึง ผู้หญิงที่นัดกับคนอื่นแล้วแต่งตัวคอยผู้มารับเพื่อออกนอกบ้าน แต่เขาไม่มาตามนัด
ยกตนข่มท่านหมายถึง พูดทับถมผู้อื่นแสดงให้เห็นว่าตัวเหนือกว่า
ยาวบั่นสั้นต่อหมายถึง รักจะอยู่ด้วยกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่ด้วยกันสั้น ๆ ให้คิดอาฆาตพยาบาทเข้าไว้
ยุให้รำตำให้รั่วหมายถึง ยุให้แตกกันหรือยุให้ผิดใจกัน
รีดเลือดกับปูหมายถึง บังคับเอากับผู้ยากจนที่ไม่มีจะให้
รวบหัวรวบหางหมายถึง ทำให้เสร็จโดยเร็ว
ร้อนวิชาหมายถึง เร่าร้อนอยากจะแสดงวิชาความรู้พิเศษจนอยู่ไม่เป็นปกติ
ล้มมวยหมายถึง สมยอมหรือทำให้สมยอมกันในทางไม่สุจริต
ลากหนามจุกช่องหมายถึง ยกเรื่องต่าง ๆ มาอ้างป้องกันตัว หรือ ขัดขวางไม่ให้คนอื่นได้รับประโยชน์ในเมื่อตนเองไม่ได้รับประโยชน์ด้วย
เลือดข้นกว่าน้ำหมายถึง ญาติพี่น้องย่อมดีกว่าคนอื่น
วันพระไม่มีหนเดียวหมายถึง วันหน้ายังมีโอกาสอีก ใช้ในการแก้แค้นหรือเอาคืน
วัวสันหลังหวะหมายถึง คนที่มีความผิดติดตัวทำให้คอยหวาดระแวง
วัวใครเข้าคอกคนนั้นหมายถึง กรรมที่ใครสร้างไว้ ย่อส่งผลให้แก่ผู้นั้น
ศรศิลป์ไม่กินกันหมายถึง ไม่ถูกกัน หรือ ไม่ลงรอยกัน หรือ ไม่ชอบหน้ากัน
ศิษย์มีครูหมายถึง คนเก่งที่มีครูเก่ง
สร้างวิมานในอากาศหมายถึง คิดคาดหวัง จะมีจะเป็นอะไรอย่างเลิศลอย
สวมหมวกหลายใบหมายถึง ดำรงตำแหน่งหลายตำแหน่งในเวลาเดียวกัน
สาวไส้ให้กากินหมายถึง เอาความลับของตน หรือพวกตนไปเผยให้คนอื่นรู้เป็นการประจานตน
สะดุดขาตัวเองหมายถึง ทำผิดหลักเกณฑ์ที่ตนกำหนดไว้เอง
เส้นผมบังภูเขาหมายถึง เรื่องง่าย ๆ แต่คิดไม่ออก เหมือนมีอะไรมาบังอยู่
หงิม ๆ หยิบชิ้นปลามันหมายถึง บุคลิกลักษณะเรียบร้อย แต่ความจริงฉลาด เลือกเอาดี ๆ ไปได้
หนังหน้าไฟหมายถึง ผู้ได้รับความเดือดร้อนก่อนผู้อื่น
หน้าสิ่วหน้าขวานหมายถึง อยู่ในระยะอันตราย เพราะอีกฝ่ายหนึ่งกำลังโกรธ
หนีเสือปะจระเข้หมายถึง หนีภัยอันตรายอย่างหนึ่งแล้วต้องพบภัยอันตรายอีกอย่างหนึ่ง
หนูตกถังข้าวสารหมายถึง ผู้ชายที่มีฐานะไม่ค่อยดีได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ร่ำรวย
หมาในรางหญ้าหมายถึง คนที่หวงแหนสิ่งที่ตนเองกินหรือใช้ไม่ได้ แต่ไม่ยอมให้คนอื่นกินหรือใช้
หอกข้างแคร่หมายถึง คนใกล้ชิดที่จะคอยทำร้ายเมื่อใดก็ได้
หัวแก้วหัวแหวนหมายถึง เป็นที่รักใคร่เอ็นดูมาก
หาเหาใส่หัวหมายถึง รนหาเรื่องเดือดร้อน รำคาญใส่ตน
เอามะพร้าวห้าวไปขายสวนหมายถึง แสดงความรู้หรืออวดรู้กับผู้ที่รู้เรื่องดีกว่า
เอามือซุกหีบหมายถึง หาเรื่องเดือดร้อนหรือความลำบากใส่ตัวโดยใช่ที่
เอากุ้งฝอยไปตกปลากะพงหมายถึง ลงทุนน้อยหวังผลกำไรมาก
เอาปูนหมายหัวหมายถึง ผูกอาฆาตไว้, ประมาทหน้าว่าไม่มีทางจะเอาดีได้
เอาพิมเสนไปแลกกับเกลือหมายถึง โต้ตอบหรือทะเลาะกับคนพาลหรือคนที่มีฐานะต่ำกว่าเป็นการไม่สมควรทำ
เอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุงหมายถึง คัดค้านผู้มีอำนาจ ฐานะสูงกว่า หรือผู้ใหญ่กว่า มักจะล้มเหลว

 

 

 

สำนวนข้างต้นเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่เราหยิบยกมาเป็นตัวอย่าง ในเรื่องของสำนวนไทยยังมีสำนวนมากกว่านี้ หลากหลายความหมายให้ได้เรียนรู้เพิ่มเติมกันเลยทีเดียว สำหรับวันนี้ก็ขอฝากไว้เพียงเท่านี้

 


อ่านต่อเพิ่มเติม

ความคิดเห็นในหัวข้อ "สำนวนไทยพร้อมความหมาย"