พุทธสุภาษิต

พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดคบหา

พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดคบหา ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

รวมพุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดคบหา

พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดคบหา ตามที่เคยรู้จัก พุทธสุภาษิต มีอยู่หลายคำ จะมีคำไหนที่เรารู้จักไหมนะ

  1. การอยู่ร่วมกับคนชั่ว เป็นทุกข์
  2. การอยู่ร่วมกับคนพาลเป็นทุกข์ เหมือนอยู่ร่วมกับศัตรูตลอดเวลา
  3. คนจำพวกที่งามแต่ภายนอก ภายในไม่สะอาด มีบริวารกำบังตัวไว้ ก็ยังแสดงบทบาทอยู่ในโลก
  4. คนที่ทำดีแต่ภายนอก ภายในมักไม่บริสุทธิ์
  5. คนพาล คบเป็นเพื่อนไม่ได้
  6. คนพาล ถึงอยู่ใกล้บัณฑิต จนตลอดชีวิต ก็ไม่รู้แจ้งธรรม เสมือนทัพพี ที่ไม่รู้รสแกง
  7. คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็หอมไปด้วยฉันนั้น
  8. คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบกับคนพาลก็เป็นคนพาลฉันนั้น
  9. คนเป็นมิตรแต่ปากก็มี
  10. คนเป็นเพื่อนแต่เวลาดื่มเหล้า ก็มี เป็นเพื่อนแต่ปากว่า ก็มี
  11. คบคนดี ก็พลอยมีส่วนดีด้วย
  12. คบคนดี มีแต่ความเจริญ
  13. คบคนเช่นใด ก็เป็นคนเช่นนั้น
  14. คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น
  15. คบคนเช่นใดเป็นมิตร เขาก็เป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นเช่นนั้น
  16. ควรคบกับคนที่คบตน ไม่ควรคบคนที่ไม่คบตน ผู้ใดไม่คบคนที่คบตน ผู้นั้นชื่อว่าไม่มีธรรมของสัตบุรุษ
  17. ควรคบมิตรที่ดี
  18. ควรระแวงในศัตรู
  19. ควรระแวงในศัตรู แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ
  20. ความคุ้นเคยเป็นญาติอย่างยิ่ง
  21. จิตจอดอยู่กับใคร ถึงไกลกัน ก็เหมือนอยู่ชิดใกล้ ใจหมางเมินใคร ถึงใกล้กัน ก็เหมือนอยู่แสนไกล
  22. ถึงคนคุ้นเคย ก็ไม่ควรวางใจ
  23. ถ้าใจรักแล้ว ถึงอยู่ห่างคนละฝั่งฟากสมุทร ก็เหมือนอยู่สุดแสนใกล้ ถ้าใจชังแล้ว ถึงอยู่สุดแสนใกล้ ก็เหมือนอยู่ไกลคนละฟากมหาสมุทร
  24. ถ้าได้สหายผู้มีปัญญาปกครองตน พึงพอใจมีสติเที่ยวไปกับเขา
  25. ถ้าไม่ได้สหายที่มีปัญญาปกครองตน พึงเที่ยวไปคนเดียว และไม่พึงทำความชั่ว
  26. นักปราชญ์มีการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นสุข
  27. บัณฑิตพึงทำความเป็นเพื่อนกับคนมีศรัทธา มีศีลเป็นที่รัก มีปัญญาและเป็นพหุสูต เพราะการสมาคมกับคนดีเป็นความเจริญ
  28. บัณฑิตไม่ควรทำความเป็นเพื่อนกับคนส่อเสียด คนมักโกรธ คนตระหนี่ และคนเพลิดเพลินในสมบัติ เพราะการสมาคมกับคนชั่ว เป็นความเลวทราม
  29. บัณฑิตไม่พึงคบอสัตบุรุษ พึงคบแต่สัตบุรุษ เพราะอสัตบุรุษย่อมนำไปสู่นรก สัตบุรุษย่อมนำไปสู่สุคติ
  30. บุคคลควรคบผู้เลื่อมใสเท่านั้น ควรเว้นผู้ไม่เลื่อมใส ควรเข้าไปนั่งใกล้ผู้เลื่อมใส เหมือนผู้ต้องการน้ำเข้าไปหาห้วงน้ำฉะนั้น
  31. ปราชญ์มีการอยู่ร่วมเป็นสุข เหมือนสมาคมแห่งชาติ
  32. ปราชญ์ย่อมแนะนำสิ่งที่ควรแนะนำ ไม่ชวนทำสิ่งที่มิใช่ธุระ การแนะนำดี เป็นความดีของปราชญ์ ปราชญ์ถูกกล่าวว่าโดยชอบก็ไม่โกรธ ปราชญ์ย่อมรู้วินัย การสมาคมกับปราชญ์จึงเป็นการดี
  33. ปราชญ์ย่อมแนะนำสิ่งที่ควรแนะนำ
  34. ผู้คบคนชั่ว ย่อมถึงความสุขโดยส่วนเดียวไม่ได้ เขาย่อมยังตนให้ประสบโทษ เหมือนกิ้งก่าเข้าฝูงเหี้ยฉะนั้น
  35. ผู้คบคนเลว ย่อมพลอยเลวไปด้วย
  36. ผู้ประทุษร้ายมิตร เป็นคนเลว
  37. ผู้ปรารถนาความสุขที่มั่นคง พึงเว้นมิตรชั่วเสีย คบแต่บุคคลสูงสุด และพึงตั้งอยู่ในโอวาทของท่าน
  38. ผู้เที่ยวสมาคมกับคนพาล ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
  39. ผู้ใด แม้หากมิได้กระทำความชั่ว แต่คบหาเกลือกกลั้วกับผู้กระทำบาป ผู้นั้นย่อมพลอยถูกระแวงในกรรมชั่ว อีกทั้งเสียงเสื่อมเสียย่อมเกิดขึ้นแก่เขา
  40. ผู้ไม่คบหาคนชั่ว ย่อมได้รับสุขแต่ส่วนเดียว
  41. พึงมองเห็นคนมีปัญญาที่ชอบชี้โทษ พูดจาข่มขี่ เสมือนเป็นผู้บอกขุมทรัพย์ พึงคบคนที่เป็นบัณฑิตเช่นนั้นแหละ เมื่อคบคนเช่นนั้นย่อมมีแต่ดี ไม่มีเสียเลย
  42. พึงสมาคมกับสัตบุรุษ พึงทำความสนิทสนมกับสัตบุรุษ ผู้นั้นรู้ทั่วถึงสัทธรรมของสัตบุรุษแล้ว ย่อมหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง
  43. พึงเป็นผู้ใคร่ธรรม ทรงไว้ซึ่งสุตะเป็นผู้สอบถาม เข้าไปนั่งใกล้ท่านผู้มีศีล และเป็นพหุสูตโดยเคารพ
  44. พึงแนะนำตักเตือนเถิด พึงพร่ำสอนเถิด พึงห้ามปรามจากความชั่วเถิด คนที่ทำเช่นนั้น ย่อมเป็นที่รักของสัตบุรุษ และไม่เป็นที่รักของอสัตบุรุษ
  45. ภิกษุผู้ฟุ้งซ่าน คลอนแคลน อาศัยมิตรชั่ว ถูกคลื่นท่วมทับ (อดทนต่อคำสั่งสอนไม่ได้) ย่อมจมลงในห้วงน้ำใหญ่
  46. มิตรชั่วไม่ควรคบ
  47. มีศัตรูเป็นบัณฑิต ดีกว่ามีมิตรเป็นคนพาล
  48. วิญญูชน หากเข้าใกล้บัณฑิตแม้เพียงครู่เดียว ก็รู้ธรรมได้ฉับพลัน เสมือนลิ้นที่รู้รสแกง
  49. ศัตรูจำนวนมาก คบหาแฝงมาในรูปมิตร
  50. สมาคมกับคนชั่ว ไม่ดีเลย
  51. สมาคมกับคนพาลย่อมนำทุกข์มาให้
  52. สมาคมกับสัตบุรุษย่อมนำสุขมาให้
  53. ส่วนผู้ใดเป็นสหายในเมื่อเกิดเรื่องต้องการ ผู้นั้นแล คือเพื่อนแท้
  54. อยู่ร่วมกันนานเกินไป ที่เคยรักก็มักหน่าย
  55. อยู่ร่วมกับปราชญ์นำสุขมาให้ เหมือนสมาคมกับญาติ
  56. อยู่ในพวกข้าศึกศัตรูเพียงคืนเดียวหรือสองคืน ก็เป็นทุกข์
  57. อย่าสมาคมกับคนพาลซึ่งเป็นดังศัตรูทุกเมื่อ
  58. เป็นเพื่อนเพียงเพื่อดื่มเหล้าก็มี
  59. เพราะความไว้ใจภัยจึงตามมา
  60. เพียงเห็นกันชั่วครู่ชั่วยาม ไม่พึงไว้วางใจ
  61. เมื่อคบคนที่ดีกว่า ตัวเองก็ดีขึ้นมาฉับพลัน
  62. เมื่อคบหาคนพาล ย่อมมีแต่ความฉิบหาย
  63. เมื่อเกิดเรื่องราวขึ้น สหายช่วยให้เกิดสุข
  64. เมื่อเขาไม่มีเยื่อใย ป่วยการอยู่กินด้วย
  65. แม้ในมิตรก็ไม่ควรไว้ใจ
  66. โจรพาลอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่ควรอยู่ในที่นั้น
  67. ในกาลไหนๆผู้คบคนเลว ย่อมเลว คบคนเสมอกันไม่พึงเสื่อม คบหาคนประเสริฐย่อมพลันเด่นขึ้น เหตุนั้นควรคบคนที่สูงกว่าตน
  68. ไม่ควรคบคนเลวทราม นอกจากเพื่อให้ความช่วยเหลือ
  69. ไม่ควรทำความสนิทสนมกับคนชั่ว
  70. ไม่ควรสนิทสนมกับคนชั่ว
  71. ไม่ควรไว้ใจ ในคนไม่คุ้นเคย
  72. ไม่ควรไว้ใจคนทำบาป
  73. ไม่ควรไว้ใจคนที่ทำชั่วมาแล้ว ไม่ควรไว้ใจคนที่พูดพล่อยๆ ไม่ควรไว้ใจคนที่เห็นแก่ตัว (คนที่มีปัญญาแต่เพื่อประโยชน์ของตัว) ถึงคนที่ทำสงบเสงี่ยมเกินไป ก็ไม่ควรไว้ใจ
  74. ไม่ควรไว้ใจคนที่แสร้งทำสงบเสงี่ยม
  75. ไม่ควรไว้ใจคนพูดพล่อยๆ
  76. ไม่ควรไว้ใจคนเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว
  77. ไม่ควรไว้ใจในคนไม่คุ้นเคย แม้ในคนคุ้นเคยก็ไม่ควรไว้ใจ

 ความคิดเห็นในหัวข้อ "พุทธสุภาษิต เกี่ยวกับ หมวดคบหา"

 พุทธสุภาษิตที่แนะนำมาใหม่