พุทธสุภาษิต

พุทธสุภาษิต หมวด ค (หน้าที่ 2)

  1. คนมีสติ เท่ากับมีสิ่งนำโชคอยู่ตลอดเวลา
  2. คนมีสติ เป็นผู้ประเสริฐทุกวัน
  3. คนมีสันดานชั่ว ย่อมลำบากเพราะกรรมของตน
  4. คนมีห่วงกังวล ย่อมวุ่นวายอยู่
  5. คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา
  6. คนย่อมบริสุทธิ์ด้วยปัญญา
  7. คนย่อมเป็นที่เกลียดชัง เพราะขอมาก
  8. คนย่อมเห็นเนื้อความด้วยปัญญา
  9. คนย่อมเห็นแจ้งเนื้อความอย่างเด่นชัดด้วยปัญญา
  10. คนรู้จักขนบธรรมเนียม ย่อมยำเกรงผู้เฒ่าผู้แก่ ในชาตินี้ก็มีผู้สรรเสริญ ชาติหน้าก็ไปดี
  11. คนล่วงทุกข์ได้เพราะความเพียร
  12. คนสะอาด ไม่ยินดีในความชั่ว
  13. คนสั่งสมบุญ นำสุขมาให้
  14. คนหลอกลวง เย่อหยิ่ง เพ้อเจ้อ ขี้โอ่ อวดดี และไม่ตั้งมั่น ย่อมไม่งอกงาม ในธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว
  15. คนห่อกฤษณาด้วยใบไม้ แม้ใบไม้ก็หอมไปด้วยฉันใด การคบกับนักปราชญ์ก็หอมไปด้วยฉันนั้น
  16. คนห่อปลาเน่าด้วยใบหญ้าคา แม้หญ้าคาก็พลอยเหม็นเน่าไปด้วยฉันใด การคบกับคนพาลก็เป็นคนพาลฉันนั้น
  17. คนอกตัญญูค่อยจับผิดอยู่เป็นนิตย์ ขะทำให้เขาพอใจไม่ได้ ถึงจะให้แผ่นดินทั้งหมดแก่เขา ผู้มีปกติมองหาโทษอยู่เสมอ ก็จะทำให้เขาพอใจไม่ได้
    คำบาลี อกตัญญุสสะ โปสัสสะ นิจจัง วิวะระทัสสิโน สัพพัญเจ ปะฐะวิง ทัชชา เนวะ นัง อะภิราธะเยฯ
  18. คนอื่นจะทำคนอื่นให้บริสุทธิ์ไม่ได้
  19. คนอ่อนแอ ก็ถูกเขาดูหมิ่น
  20. คนเกิดมาชื่อว่ามีขวานเกิดติดปากมาด้วย สำหรับให้คนพาลใช้ฟันตนเอง ในเวลาพูดคำชั่ว
  21. คนเกียจคร้าน ย่อมไม่พบความสุข
  22. คนเกียจคร้าน ย่อมไม่พบทางแห่งปัญญา
  23. คนเกียจคร้านย่อมไม่พบทางด้วยปัญญา
  24. คนเขลา มีกำลัง หาทรัพย์อย่างผลุนผลัน ไม่ดี, นายนิรยบาล ย่อมฉุดคนโง่มีปัญญาทราม ผู้คร่ำครวญอยู่ ไปสู่นรกอันร้ายกาจ
  25. คนเขลา เมื่อกล่าวในเรื่องใดไม่ถูกผูก ก็ติดในเรื่องนั่น คนฉลาด เมื่อกล่าวในเรื่องใด แม้ถูกผูก ก็หลุดในเรื่องนั่น
  26. คนเขลา ไม่มั่นคงในศีล ถูกติเตียนในโลกนี้ และ ละไปแล้วย่อมเสียใจในอบายชื่อว่าย่อมเสียใจในที่ทั้งปวง
  27. คนเขลาคิดว่าเรามีบุตร เรามีทรัพย์ เขาจึงเดือนร้อน ที่แท้ตนของตนก็ไม่มี จะมีบุตร มีทรัพย์มาแต่ไหนเล่า
  28. คนเขลามียศศักดิ์ ก็เป็นทาสของคนมีปัญญา, เมื่อเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น คนฉลาดจัดการข้อได้แนบเนียน คนเขลาถึงความงมงายในข้อนั้น
  29. คนเป็นมิตรแต่ปากก็มี
  30. คนเป็นเพื่อนแต่เวลาดื่มเหล้า ก็มี เป็นเพื่อนแต่ปากว่า ก็มี
  31. คนเมื่อรักแล้ว มักพูดมาก
  32. คนเมื่อโกรธแล้ว มักพูดมาก
  33. คนเราจะดีเพราะการกระทำ
  34. คนเราจะมองเห็นอรรถชัดแจ้งได้ด้วยปัญญา
  35. คนเราจะเลวเพราะการกระทำ
  36. คนเราถึงมีชาติกำเนิดต่ำ แต่หากขยันหมั่นเพียรมีปัญญา ประกอบด้วยอาจาระและศีล ก็รุ่งเรืองได้เหมือนไฟถึงอยู่ในคืนมืด ก็สว่างไสว
  37. คนเรานี้ ถ้ามีอันทำชั่วลงไป ก็อย่าพึงทำความชั่วนั้นซ้ำเข้าอีก
  38. คนเรียนน้อย ปัญญาย่อมไม่พัฒนา
  39. คนเรียนน้อย เจริญแต่เนื้อหนังมังสา
  40. คนเรียนน้อย แก่เปล่า เหมือนโคถึก
  41. คนเหล่าใด อันเทวทูตตักเตือนแล้วยังประมาทอยู่ คนเหล่านั้นเข้าถึงกายอันเลว ย่อมเศร้าโศกสิ้นกาลนาน
  42. คนเหล่าใดเขลา มีปัญญาทราม มีความคิดเลว ถูกความหลงปกคลุม, คนเช่นนั้น ย่อมติดเครื่องผูกอันมารทอดไว้นั้น
  43. คนเห็นแก่ตัว เป็นคนสกปรก
  44. คนแข็งกระด้างก็มีเวร
  45. คนโกรธฆ่าได้ แม้แต่มารดาของตน
  46. คนโกรธจะผลาญสิ่งใด แม้สิ่งนั้นทำยาก ก็เหมือนทำง่าย
  47. คนโกรธมีวาจาหยาบ
  48. คนโกรธย่อมฆ่าได้แม้มารดาของตน
  49. คนโง่ คนพาล ไม่ควรเป็นผู้นำ
  50. คนโง่ มักตกอยู่ในอำนาจแห่งมาร
  51. คนโง่ มีกำลังบริหารหมู่ย่อมไม่สำเร็จประโยชน์
  52. คนโง่ ย่อมได้รักทุกข์บ่อย ๆ
  53. คนโง่ ไม่ควรเป็นผู้นำ
  54. คนโง่ก็ตาย คนฉลาดก็ตาย
  55. คนโง่ถึงมียศ ก็กลายเป็นทาสของคนมีปัญญา เมื่อมีเรื่องราวต่าง ๆ เกิดขึ้น บัณฑิตจัดการเรื่องใดอันเป็นเรื่องละเอียดก่อน คนโง่ย่อมถึงความหลงใหลในเรื่องนั้น
  56. คนโง่รู้สึกว่าตนโง่ จะเป็นผู้ฉลาดเพราะเหตุนั้นได้บ้าง
  57. คนโง่เขลามาประชุมกันแม้ตั้งกว่าพันคน พวกเขาไม่มีปัญญา ถึงจะพร่ำคร่ำครวญอยู่ตลอดร้อยปี ก็หามีประโยชน์ไม่ คนมีปัญญารู้เนื้อความแห่งภาษิต คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า
  58. คนโลภไม่รู้ทันว่าความโลภนั้น เป็นภัยที่เกิดขึ้นภายในตัวเอง
  59. คนใจการุณ ช่วยแก้ไขคนให้หายโศกเศร้า
  60. คนใด จักทำตามโอวาทที่ผู้รู้แสดงแล้ว คนนั้นจักถึงฝั่งที่สวัสดี เหมือนพ่อค้าถึงฝั่งที่สวัสดีเพราะม้าวลาหก
  61. คนใด มั่งมีทรัพย์สินเงินทอง มีของกินของใช้มาก แต่บริโภคของอร่อยคนเดียว นั้นเป็นปากทางแห่งความเสื่อม
  62. คนใด มารดาบิดาแก่เฒ่า ล้วงพ้นวัยหนุ่มวัยสาวไปแล้ว ตนเองสามารถก็ไม่เลี้ยงดู นั้นคือปากทางแห่งความเสื่อม
  63. คนใดชอบนอน ชอบมั่วสุม ไม่เอางาน เกียจคร้าน เอาแต่โกรธ งุ่นง่าน นั้นคือปากทางของความเสื่อม
  64. คนใดมักหลับ มักคุย และไม่ขยัน เกียจคร้าน มีความมุทะลุ ข้อนั้น เป็นเหตุของผู้ฉิบหาย
  65. คนใดมีจิตไม่ท้อถอย มีใจไม่หดหู่ บำเพ็ญกุศลธรรมเพื่อบรรลุที่เกษมจากโยคะ พึงบรรลุธรรมเป็นที่สิ้นสังโยชน์ทั้งปวงได้
  66. คนใดมีท้องพร่อง ย่อมทนความหิวได้ ผู้ฝึกตน มีความเพียร กินดื่มพอประมาณ ไม่ทำบาป เพราะอาหาร ท่านเรียกคนนั้นแล ว่าสมณะในโลก
  67. คนใดมีใจผ่องใส ให้ข้าวด้วยศรัทธา, คนนั้นย่อมได้ข้าว ทั้งในโลกนี้ ทั้งในโลกหน้าเหมือนกัน
  68. คนใดร้องไห้บ่นเพ้อถึงคนที่ตายไปแล้ว แม้คนที่ร้องนั้นก็ต้องตายเหมือนกัน
  69. คนใดเป็นนักเลงหญิง นักเลงสุรา และนักเลงการพนัน ย่อมล้างผลาญทรัพย์ที่ตนได้แล้ว ๆ , ข้อนั้นเป็นเหตุแห่งผู้ฉิบหาย
  70. คนใดเมื่อถูกอ้างเป็นพยาน เบิกความเท็จ เพราะตนก็ด ีเพราะผู้อื่นก็ดี เพราะทรัพย์ก็ดี พึงรู้ว่าผู้นั้นเป็นคนเลว
  71. คนใดไม่ว่าจะหนาวหรือร้อน มีลมแดด เหลือบยุงก็ไม่หรั่น ทนหิวทนกระหายได้ทั้งนั้น ทำงานต่อเนื่องไปไม่ขาด ทั้งคืนวัน สิ่งที่เป็นประโยชน์มาถึงตามกาล ก็ไม่ปล่อยให้สูญเสียไป คนนั้นย่อมเป็นที่ชอบใจของสิริโชค สิริโชคจะพักพึงอยู่กับเขา
  72. คนได้เกียรติ เพราะความสัตย์
  73. คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
  74. คนไม่ประมาท ไม่มีวันตายในกาลอันไม่ควรตาย
  75. คนไม่พินิจพิจารณา เป็นคนไม่มีปัญญา
  76. คนไม่มีที่พึ่ง.. อยู่เป็นทุกข์
  77. คนไม่มีที่พึ่ง อยู่เป็นทุกข์
  78. คนไม่มีศิลปวิทยา เป็นอยู่ยาก
  79. คนไม่มีโชค มีศิลป์หรือไม่มีศิลป์ก็ตาม ขวนขวายรวบรวมทรัพย์ใดไว้ได้เป็นอันมาก ส่วนคนมีโชค ย่อมบริโภคทรัพย์เหล่านั้น
  80. คนไม่เกียจคร้าน ย่อมพบแต่ความสุข
  81. คนไร้ปัญญา ไม่มีความพินิจพิจารณา
  82. คบคนดี ก็พลอยมีส่วนดีด้วย
  83. คบคนดี มีแต่ความเจริญ
  84. คบคนดี ย่อมเจริญขึ้น
  85. คบคนเช่นใด ก็เป็นคนเช่นนั้น
  86. คบคนเช่นใด ย่อมเป็นคนเช่นนั้น
  87. คบคนเช่นใดเป็นมิตร เขาก็เป็นคนเช่นนั้น เพราะการอยู่ร่วมกันย่อมเป็นเช่นนั้น
  88. ครองเรื่อนไม่ดี ก็เป็นทุกข์
  89. คฤหัสถ์ชาวบ้าน เกียจคร้าน ไม่ดี บรรพชิตไม่สำรวม ไม่ดี ผู้ครองแผ่นดินไม่ใคร่ครวญก่อนทำ ไม่ดี บัณฑิตมักโกรธ ไม่ดี
  90. ควรกล่าววาจาที่น่ารักอันผู้ฟังยินดีเท่านั้น เพราะคนดีไม่นำพาคำชั่วของผู้อื่น คนดีจะกล่าวแต่คำไพเราะ
  91. ควรกล่าวแต่วาจาที่น่าพอใจ
  92. ควรกล่าวแต่วาจาที่ไม่ยังตนให้เดือดร้อน
  93. ควรคบกับคนที่คบตน ไม่ควรคบคนที่ไม่คบตน ผู้ใดไม่คบคนที่คบตน ผู้นั้นชื่อว่าไม่มีธรรมของสัตบุรุษ
  94. ควรคบมิตรที่ดี
  95. ควรงดเว้นบาปเสีย เหมือนพ่อค้ามีพวกน้อย มีทรัพย์มาก เว้นหนทางที่มีภัย และ เหมือนผู้รักชีวิตเว้นยาพิษเสียฉะนั้น
  96. ควรทำตามถ้อยคำของผู้เอ็นดู
  97. ควรทำบุญอันนำสุขมาให้
  98. ควรทำวันคืนไม่ให้เปล่าจากประโยชน์น้อยหรือมาก เพราะวันคืนผ่านบุคคลใดไป ชีวิตของบุคคลนั้น ย่อมพร่องจากประโยชน์นั้น
  99. ควรทำแต่ความเจริญ อย่าเบียดเบียนผู้อื่น
  100. ควรระแวงภัยที่ควรระแวง พึงระวังภัยที่ยังไม่มาถึง ผู้ฉลาดย่อมมองดูโลกทั้ง 2 เพราะกลัวต่ออนาคต

 ความคิดเห็นในหัวข้อ "พุทธสุภาษิต หมวด ค (หน้าที่ 2)"

 พุทธสุภาษิตที่แนะนำมาใหม่