ตัวกรองผลการค้นหา
เดือนยังกะจับมด
หมายถึงสว่างไสวเต็มที่ จ้าไปด้วยความสว่าง เหมือนเดือน(ดวงจันทร์) ที่ส่องสว่างเต็มที่จนสามารถมองเห็นหรือจับมดตัวเล็ก ๆ ในเวลากลางคืนได้
ตื่นก่อนนอนหลัง
หมายถึงเป็นสำนวน สุภาษิตสอนหญิง ให้มีค่านิยม ตื่นนอนก่อนสามี แต่เข้านอนทีหลังสามี เพื่อใช้เวลาทำงานบ้านงานเรือน ปรนนิบัติสามี
ตื่นก่อนนอนทีหลัง
ปากคนยาวกว่าปากกา
หมายถึงตามปรกติปากของอีกายาวกว่าปากคน แต่ปากคนนั้นพูดเล่าลือต่อปากกันไปได้ไกล ผิดกับกาแม้ปากจะยาว แต่ก็ต่อปากต่อคำอย่างคนไม่ได้
คลุกคลีตีโมง
หมายถึงมั่วสุมหรืออยู่ร่วมคลุกคลีพัวพันกันอย่างใกล้ชิดตลอดเวลา คำนี้โบราณท่านเปรียบไว้ด้วยคำที่มีความหมายบ่งบอกที่ค่อนข้างชัดเจน คือคำว่าคลุกคลีนั่นเอง
ปิ้งปลาประชดแมว
หมายถึงทำเพื่อประชด แต่กลับทำให้ตนเองเสียประโยชน์, มักพูดคู่กับ หุงข้าวประชดหมาว่า หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว
ต่อปาก ต่อคำ
หมายถึงคอยแต่จะเถียงกันไปมา ไม่รู้จักจบจักสิ้น
ซื่อเหมือนแมวนอนหวด
หมายถึงเชื่อง ไม่มีพิษมีภัย แต่ความจริงแล้วกลับซ่อนความร้ายกาจ ความเจ้าเล่ห์ เอาไว้ภายใน โดยโบราณท่านเปรียบไว้เหมือนแมวเชื่องๆตัวหนึ่ง แต่ถึงเวลาที่ตื่นตัวกลับปราดเปรียวและมีพิษสงร้ายกาจ
จับปลาสองมือ
หมายถึงการที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น สำนวนนี้นิยมใช้กับผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะมีปัญหาตามมา
เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย
หมายถึงเวลาจะต้องเสียงเพียงเล็กน้อย ไม่อยากจะเสีย แต่พอถึงคราวต้องเสียมาก ๆ รับควักเงินให้ทันที อย่างข้าวของที่ชำรุดไปเล็กน้อย แทนที่จะรีบซ่อมแซมเสีย กลับปล่อยให้เสียมาก แล้วจึงซ่อมแซม ซึ่งต้องหมดเงินมากกว่าหลายเท่า
บุญมา ปัญญาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก
หมายถึงในเวลาที่มีบุญวาสนา สติปัญญาก็ปลอดโปร่ง กำลังใจดี แม้จะเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะหายวันหายคืน เพราะเขาหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากผู้มีวาสนานั้น และจะมีภาษิตต่อท้ายอีกว่า “บุญไม่มา ปัญญาไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย” ซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน
เป่าปี่ให้ควายฟัง
หมายถึงการพูดจาแนะนำสั่งสอนให้คนโง่เง่าฟังเพื่อหวังให้เกิดประโยชน์แก่ตัวเขาเองแต่กลับไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยเพราะคนโง่ฟังไม่รู้เรื่องเหมือนกับคนเป่าปี่ให้ควายฟังควายฟังไม่รู้เรื่อง