สุภาษิตไทย สำนวนไทย

50 สำนวนสุภาษิตไทย

สุภาษิต สุภาษิตไทย หมายถึง คำกล่าวที่ดีงาม มักเป็นคำสั่งสอน แนะนำให้ประพฤติดี ปฏิบัติชอบ หรือละเว้นจากการทำความชั่ว เป็นต้น ดังนั้น สรุปได้ว่า สุภาษิตไทย คือ คำที่มุ่งสั่งสอนให้ ประพฤติปฏิบัติดี โดยเป็นเพียง คำสั้น ๆ มีความคมคาย ไพเราะ น่าฟัง จำง่าย

 

50 สำนวนสุภาษิตไทย เรียง ก - ฮ

รวมสำนวนสุภาษิตไทย ที่ได้ยินบ่อย ไว้ดังนี้

 

สุภาษิตไทย หมวด ก ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
1 ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง ความสวยงามเกิดขึ้นได้จากการปรุงแต่ง
2 ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน

สุภาษิตไทย หมวด ข ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
3 ขายผ้า เอาหน้ารอด ยอมเสียทุกอย่างเพื่อรักษาชื่อเสียง
4 ขี่ช้างจับตั๊กแตน ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ได้ผลไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไป
5 เข้าตามตรอก ออกตามประตู ทำอะไรให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี
6 เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง อย่าประมาทต้องเตรียมให้พร้อม และให้มีสติกำหนดจดจำให้ดี

สุภาษิตไทย หมวด ค ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
7 คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ คนดีไปที่ไหนก็มีคนอยากคบหาสมาคมด้วย ไม่ลำบาก
8 คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับมาได้ ทำงานเป็นทีมจะให้สถานการณ์ที่ดีกว่า
9 คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย อัปราชัย ในที่นี้มีความหายเท่ากับ ปราชัย คือจะพ่ายแพ้ หมายถึงไม่เป็นมงคลแก่ตัว
10 คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คบใครก็จะเป็นคนอย่างนั้น
11 คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ ก่อนคบค้าสมาคมกับใคร ดูที่มาที่ไปให้ดีๆ
12 ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด แม้จะมีความรู้สูงแค่ไหนก็ตาม ถ้าความประพฤติไม่ดีแล้วก็เอาตัวไม่รอด เพราะไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย หรือมีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
13 คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก ที่อยู่อาศัย แม้จะคับแคบเพียงใด ถ้ารู้จักทำให้ดี ก็น่าอยู่ แต่ถ้าหากมีความคับอกคับใจแล้ว แม้ที่จะกว้างขวางใหญ่โต ก็มิได้ทำให้สบายอกสบายใจเลย มีแต่จะรู้สึกอึดอัดใจแต่ถ่ายเดียว

สุภาษิตไทย หมวด จ ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
14 จับปลาสองมือ การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น สำนวนนี้นิยมใช้กับผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะมีปัญหาตามมา

สุภาษิตไทย หมวด ช ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
15 ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิด ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ ใบบัวมีขนาดเล็ก ถ้าเอาใบบัวใบเดียวไปปิดช้าง ย่อมปิดไม่มิด คนที่ทำความชั่วไว้มากมาย ถึงจะปิดอย่างไรๆ ก็ปิดไม่หมด คนย่อมรู้เข้าจนได้

สุภาษิตไทย หมวด ด ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
16 ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ต้องดูถึงย่าถึงยาย วัวที่มีลักษณะดีนั้นให้ดูที่หาง ถ้าปลายหางเป็นพู่เหมือนใบโพธิ์ ก็นับว่าเป็นวัวที่มีลักษณะดีมาก การที่จะเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ครอง ไม่ใช่ดูเพียงตัวผู้หญิงเท่านั้น ต้องดูไปจนถึงแม่ด้วยว่าเป็นคนดีหรือไม่ เพราะลูกกับแม่ก็มักจะมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน และถ้าจะดูให้แน่จริงๆ ต้องสืบประวัติไปจนถึงย่ายายของหญิงนั้นด้วย

สุภาษิตไทย หมวด ต ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
17 ตามใจปากมากหนี้ เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก

สุภาษิตไทย หมวด น ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
18 นายว่า ขี้ข้าพลอย ลักษณะของคนเลว ไร้ความรู้ ถ้าเจ้านายว่าอย่างไร ก็มักจะพลอยประสมโรงซ้ำเติมด้วย
19 น้ำท่วมปาก การรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ พูดไม่ออกไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่างหรือเพราะเกรงจะมีภัยมาถึงตนเองแก่ตนหรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย รู้แล้วพูดออกมาไม่ได้ รู้สึกอึดอัด เหมือนน้ำท่วมปาก
20 น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกัน จึงควรผูกไมตรีกันไว้
21 น้ำลด ตอผุด ความชั่วเมื่อทำไว้ในเวลาที่ตนมีอำนาจนั้น อาจไม่มีใครทราบ แต่เมื่อหมดบุญ หมดอำนาจ บรรดาความชั่วที่ปิดบังกันไว้นั้น ก็จะปรากฏออกมา
22 น้ำเชี่ยว อย่าขวางเรือ เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็อย่าไปขัดขวาง จะได้รับอันตราย เพราะตอนนี้ตนอยู่ในระยะหน้าสิ่งหน้าขวาน คนเรามักไม่มีเหตุผลดุจนน้ำเชี่ยว ถ้าเอาเรือไปขวาง เรือก็จะล่ม
23 เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ ทั้งๆ ที่ตนไม่มีส่วนได้เป็นผลประโยชน์กับเขาเลย แต่ก็พลอยเข้าไปพัวพันในเรื่องร้าย ทำให้ต้องพลอยรับบาปรับเคราะห์เสียหายไปกับเขาด้วย

สุภาษิตไทย หมวด ป ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
24 ปลาหมอตายเพราะปาก คนที่ชอบพูดอะไรพล่อยๆ มักจะได้รับอันตรายเพราะปากที่พูดพล่อยๆ นั้น
25 ปากคนยาวกว่าปากกา ตามปรกติปากของอีกายาวกว่าปากคน แต่ปากคนนั้นพูดเล่าลือต่อปากกันไปได้ไกล ผิดกับกาแม้ปากจะยาว แต่ก็ต่อปากต่อคำอย่างคนไม่ได้
26 ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา สมัยก่อนการศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านยังไม่แพร่หลาย คนที่รู้หนังสือมีน้อย บางคนก็ได้ดีเพราะปาก การคิดเลขหรือการคำนวณนั้นมีความสำคัญน้อยลงมาอีก แม้เดี๋ยวนี้คนที่มีความรู้ดีแต่พูดไม่เก่ง ก็เอาดีได้ยาก ส่วนความชั่วความดีนี้ ทำลงไปแล้วย่อมเป็นเสมือนตราที่ประทับลงไปให้รู้ว่าคนนั้นเป็นคนดี หรือคนชั่ว

สุภาษิตไทย หมวด พ ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
27 พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง คำพูดบางครั้งหากพูดออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองหรือคนรอบข้าง หากอยู่เฉยๆไม่พูดอะไรออกไปยังจะก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า

สุภาษิตไทย หมวด ม ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
28 มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่ เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใครๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
29 ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก เหมือนไม้แก่ถ้าดัดก็หัก ผิดกับไม้อ่อนซึ่งดัดง่ายไม่หัก

 

 

สุภาษิตไทย หมวด ร ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
30 รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ รักจะคบกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่สั้น ๆ ให้คิดอาฆาต
31 รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง แต่การที่พ่อแม่ตีไม่ใช่ตีด้วยความเกลียดชัง เพราะพ่อแม่ที่ตีนั้นก็ไม่อยากตี บางทีตีแล้วแอบไปร้องไห้ สงสารลูกก็มี แต่ถ้าไม่ตีเสียบ้าง ต่อไปถ้าลูกกลายเป็นคนชั่วช้าเลวทราม พ่อแม่จะต้องเสียน้ำตามากกว่านั้น
32 รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม การศึกษาหาความรู้ไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะการมีความรู้มาก ไม่เหมือนการแบกข้าวแบกของ ซึ่งจะรู้สึกว่าหนักบ่า มีความรู้มิได้หนักบ่าหนักแรงอะไร ความรู้ที่เวลานี้เราคิดว่าไม่มีประโยชน์ วันหน้าอาจเห็นคุณค่าของมันก็ได้

สุภาษิตไทย หมวด ล ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
33 เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว ถ้าลดตัวไปเล่นหัวกับคนชั้นต่ำกว่า เขาก็อาจตีเสมอทำลวนลามเอา สากในที่นี้หมายถึงสากตำข้าวที่เขาพิงไว้ ถ้าใครซุกซนไปจับต้องเข้า สากอาจเลื่อนล้มทับถูกหัวถูกหูก็ได้
34 โลภมาก ลาภหาย โลภมากเกินไป ในที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย ท่าสอนให้รู้จักมีความพอประมาณไว้บ้าง

สุภาษิตไทย หมวด ว ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
35 วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
36 ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง พูดว่าคนอื่นอย่างไร ตนเองก็กลับเป็นอย่างนั้นเสียเองเหมือนอิเหนาที่ปรารภว่าไม่รักไม่ต้องการบุษบา แต่ตัวเองกลับลักพาบุษบาไป

สุภาษิตไทย หมวด ส ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
37 สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้ ภาษิตนี้บางทีก็มีพูดต่อไปอีกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองตีนโด่เด่ คงจะเซลงบ้าง”
38 เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย ผู้หญิงที่จะผูกมัดจิตใจสามีได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยอย่างเดียว เพราะความสวยงามเป็นของไม่จีรังยั่งยืนอะไร แต่ความดีโดยเฉพาะฝีมือในการปรุงอาหาร ถ้าหากสามารถทำให้ถูกปากสามีได้ ย่อมผูกใจสามีให้รักไปจนตาย
39 เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร เดิมเราถือกันว่า ผู้หญิงที่เป็นแม่ร้างเพราะสามีหนีไปนั้น แสดงว่าผู้หญิงผู้นั้นต้องมีอะไรบกพร่องเลวร้าย สังคมมักคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เพราะฉะนั้นผู้หญิงจึงไม่ยอมเสียสามีให้แก่หญิงใด เพราะเท่ากับเสียศักดิ์ศรีของตน แต่ในปัจจุบันอาจได้ยินบางคนพูดว่า “ถ้าได้ทองเท่าหัว ใครอยากได้ผัวก็เอกไป” แสดงว่าคนเดี๋ยวนี้เห็นแก่เงินมากขึ้น

สุภาษิตไทย หมวด ห ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
40 หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
41 ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง อย่างบางคนชอบล่าสัตว์ บางทีไปยิงลูกของตน โดยเข้าใจว่าเป็นสัตว์ป่าก็มี

สุภาษิตไทย หมวด อ ได้แก่

# สุภาษิตไทย ความหมาย
42 อย่าชิงสุกก่อนห่าม ตามปรกติผลไม้ เช่นมะม่วงก่อนจะสุก จะต้องห่ามเสียก่อน การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย เหมือนผลไม้ที่ยังไม่แก่ เอามาบ่มแม้จะสุก แต่ก็จะเข้าทำนองหัวหวานก้นเปรี้ยว หรือยังเรียนหนังสือไม่จบ ยังหาเงินไม่ได้ ริมีลูกมีเมียเสียก่อน ตัวเองก็จะเดือดร้อนลูกเมียก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
43 อย่าชี้โพรงให้กระรอก คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว เหมือนกับกระรอกมันย่อมรู้จักโพรงของมัน ไม่ต้องไปชี้บอกกับมันดอก
44 อย่าเห็นขี้ดีกว่าไส้ อย่าเห็นผู้อื่นดีกว่าญาติพี่น้องลูกหลานของตน
45 อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจ ต้องรู้จักช่วยตัวเอง อย่าคิดแต่จะพึงพาอาศัยคนอื่นเสมอไป ถ้าเราทำอะไรได้เองก็สะดวก แต่ถ้าต้องคอยอาศัยคนอื่นเขาร่ำไป ย่อมไม่ได้รับความสะดวก เหมือนคนมีรถยนต์แล้วขับไม่เป็น จะไปไหนทีก็ต้องพึ่งคนขับอยู่เรื่อย ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยเราก็ไปไม่ได้
46 อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง คืออย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่เสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
47 อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ พิมเสนเป็นของมีค่างมากกว่าเกลือ คืออย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่เสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
48 อย่าเอาลูกเขามาเลี้ยง อย่าเอาเมี่ยงเขามาอม อย่าเอาของคนอื่นมาชื่นชมยินดี
49 อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน อย่าหาเรื่องใส่ตัว การพูดหรือทำอะไรก้าวก่ายไปถึงผู้อื่นโดยมิบังควร ย่อมทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
50 อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง อย่าวางใจหรือไว้วางใจใครคนอื่นง่ายเกินไป จะเป็นเราที่เดือดร้อนในภายหลังได้

คงคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว แต่อยากให้ทำความเข้าใจถึงความหมายอันลึกซึ้ง และนำไปใช้ให้ถูกกับสถานการณ์