สุภาษิตไทย

สํานวนสุภาษิต พร้อมความหมาย

คำสุภาษิต คือ ถ้อยคำที่สั่งสอนหรือห้ามโดยตรง มีคำเปรียบเทียบบ้างไม่มีบ้างก็ได้ สื่อไปในทางตักเตือนสั่งสอนเชิงทางบวก มีความหมายที่ดี ไม่ได้แต่งให้คล้องจองกัน

คำสุภาษิต คืออะไร?

     คำสุภาษิต คือ ชุดคำในภาษาไทยที่เป็นการสร้างคำให้แฝงไปด้วยความหมายในเชิงเปรียบเทียบอุปมาอุปมัย และเป็นเชิงสั่งสอนหรือให้ข้อคิด หรือตักเตือนไปในทางบวก คือให้ความหมายในแง่ดีเป็นหลัก

 

     สํานวนสุภาษิต รวมถึงคำพังเพยนั้น นิยมใช้กันมาอย่างยาวนานและแพร่หลาย นับเป็นอีกหนึ่งในวัฒนธรรมที่น่าภาคภูมิใจของไทยเรา สำนวนไทย สุภาษิตไทยและคำพังเพยนั้น เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น ทั้งทางดีและทางร้าย จนมีการนำสิ่งที่เกิดขึ้นมาเรียบเรียงถ้อยคำใหม่ในเชิงสั่งสอนหรือเปรียบเทียบ จนเกิดเป็นสํานวนไทย สุภาษิตคำพังเพย และ สุภาษิตสำนวนไทยในที่สุด

     สํานวนสุภาษิต พร้อมความหมาย คำพังเพยนั้น ดูเผิน ๆ จะคล้ายกันมากจนแยกกันแทบไม่ออก ซึ่งในความเป็นจริงแล้วทั้ง 3 คำมีความแตกต่างกันอยู่ โดยที่สํานวนไทยจะเป็นการพูดเชิงเปรียบเทียบและมักจะไม่แปลความหมายตรง ๆ เช่น กินน้ำใต้ศอก ส่วนสุภาษิตจะเป็นเชิงสั่งสอนหรือให้ข้อคิด มีความหมายที่ดี เช่น หัวล้านได้หวี วานรได้แก้ว และสุดท้ายคำพังเพย จะเป็นลักษณะของการเปรียบเทียบของสองสิ่ง เช่น กว่าถั่วจะสุกงาก็ไหม้ เป็นต้น

สุภาษิตไทย

 

สํานวนสุภาษิต พร้อมความหมาย

รวบรวมสํานวนสุภาษิต พร้อมความหมายที่ใช้บ่อย ๆ จำนวน 200 คำ มาเรียงตามตัวอักษร ก-ฮ พร้อมความหมายของคำสุภาษิตมาไว้ที่นี่ครบ ๆ แล้วตามด้านล่างนี้เลย

คำสุภาษิตหมวด ก.

  1. ก ข ไม่กระดิกหู หมายถึง ผู้ที่เรียนหนังสือแล้วไม่รู้ อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้
  2. กงกำกงเกวียน หมายถึง การกระทำใดๆ ที่เคยทำไปในอดีต ส่งผลต่อผู้กระทำนั้นๆ มักใช้กับการกระทำในทางที่ไม่ดี ในลักษณะถูกผลกรรมตามสนอง
  3. กงเกวียนกำเกวียน หมายถึง การกระทำใดๆ ที่เคยทำไปในอดีต ส่งผลต่อผู้กระทำนั้นๆ มักใช้กับการกระทำในทางที่ไม่ดี ในลักษณะถูกผลกรรมตามสนอง
  4. กบเกิดใต้บัวบาน หมายถึง อยู่ใกล้สิ่งที่ดีงาม แต่ไม่รู้จักคุณค่า
  5. กบเลือกนาย หมายถึง ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาอยู่เรื่อย ๆ
  6. กบเลือกนาย หมายถึง ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนผู้บังคับบัญชาเรื่อยๆ
  7. กบในกะลาครอบ หมายถึง ผู้มีความรู้และประสบการณ์น้อย แต่สำคัญตนว่ามีความรู้มาก
  8. กระดูกขัดมัน หมายถึง ขี้เหนียวมากอย่างไม่ยอมให้อะไรแก่ใครง่ายๆ
  9. กระดูกร้องไห้ หมายถึง การจับตัวฆาตกรมาลงโทษได้หลังจากพบหลักฐานโดยบังเอิญ
  10. กระต่ายตื่นตูม หมายถึง คนที่แสดงอาการตื่นตกใจง่ายโดยไม่ทันสำรวจให้ถ่องแท้ก่อน
  11. กระต่ายหมายจันทร์ หมายถึง ผู้ชายหมายปองผู้หญิงที่มีฐานะดีกว่า
  12. กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี หมายถึง เมื่อถึงคราวบ้านเมืองนั้นๆถึงคราวยากลำบาก ก็ยังเหลือคนดีมีความสามารถมาช่วยกอบกู้สถานการณ์ช่วยเหลือให้ผ่านพ้นไปได้
  13. กลัวให้ถูกท่า กล้าให้ถูกที่ ดีให้ถูกทาง หมายถึง ทำอะไรก็ต้องให้ถูกกาลเทศะ
  14. กลิ้งครกขึ้นภูเขา หมายถึง เรื่องที่กำลังจะทำนั้นจะทำให้สำเร็จนั้นทำได้ยากลำบาก ต้องใช้ความพยายามและความสามารถอย่างมาก เปรียบเสมือนการ กลิ้งครกขึ้นภูเขา
  15. กว่าถั่วจะสุก งาก็ไหม้ หมายถึง ทำอะไรไม่ทันท่วงที
  16. กาคาบพริก หมายถึง คนผิวดำที่ชอบแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีแดง ๆ หรือสีแจ๋นๆ
  17. กาในฝูงหงส์ หมายถึง ผู้ที่ต่ำต้อยไม่มีเกียรติ อยู่ท่ามกลางเจ้าขุนมูลนายสูงศักดิ์
  18. กินที่ลับไขที่แจ้ง หมายถึง เอาความลับหรือเอาเรื่องที่ทำกันที่ลับมาเปิดเผยให้คนเขารู้
  19. กินน้ำพริกถ้วยเก่า หมายถึง อยู่กับเมียคนเดิม
  20. กินน้ำไม่เผื่อแล้ง หมายถึง มีเงิน มีของก็ใช้ถลุงเสียจนหมด ไม่ห่วงอนาคตข้างหน้า
  21. กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา หมายถึง คนที่เนรคุณคนเปรียบได้กับคนที่อาศัยพักพิงบ้านเขาอยู่แล้ว คิดทำมิดีมิชอบให้เกิดขึ้นภายในบ้านนั้น ทำให้เจ้าของบ้านที่ให้อาศัยต้องเดือดร้อน
  22. กินบนเรือนแล้วขี้รดหลังคา หมายถึง เนรคุณ
  23. กินปูนร้อนท้อง หมายถึง ทำผิดแล้วมักออกตัว แสดงพิรุธ
  24. เก็บหอมรอมริบ หมายถึง เก็บรวบรวมไว้ทีละเล็กละน้อย
  25. เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน หมายถึง ถึงจะทำงานเล็กใหญ่ หรือค้าขายอะไรก็ตาม ก็พยายามค่อยๆ ทำให้ดีขึ้นแม้เล็กน้อยๆ เมื่อรวมกันและใช้เวลาก็จะทำให้การงานนั้นเห็นผลเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาได้
  26. เก็บเล็กผสมน้อย หมายถึง คอยคอยเงินทีละน้อยนานไปก็จะมีเยอะ
  27. เก็บเล็กผสมน้อย หมายถึง เก็บไว้ทีละเล็กละน้อย
  28. เกลียดตัวกินไข่ เกลียดปลาไหลกินน้ำแกง หมายถึง เกลียดตัวเขาแต่อยากได้ผลประโยชน์จากเขา
  29. เกลือจิ้มเกลือ หมายถึง ไม่ยอมเสียเปรียบกัน แก้เผ็ดให้สาสมกัน
  30. แกงจืดจึงรู้คุณเกลือ หมายถึง จะรู้ค่าของบางสิ่งก็ต่อเมื่อเดือดร้อน
  31. ใกล้เกลือกินด่าง หมายถึง มองข้ามของดีที่อยู่ใกล้ตัวซึ่งจะเป็นประโยชน์แก่ตน กลับไปแสวงหาสิ่งอื่นที่ด้อยกว่า
  32. ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง หมายถึง ความสวยงามเกิดขึ้นได้จากการปรุงแต่ง
  33. ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ หมายถึง ต่างฝ่ายต่างรู้ความลับของกันและกัน
  34. ไก่ได้พลอย หมายถึง ได้สิ่งที่มีค่าแต่ไม่รู้คุณค่า จึงไม่เกิดประโยชน์แต่อย่างใด

คำสุภาษิตหมวด ข. - ง.

  1. ขนมผสมน้ำยา หมายถึง ทั้งคู่ดีเลวพอกัน จะบอกว่าใครดีกว่าใครไม่ได้
  2. ขว้างงูไม่พ้นคอ หมายถึง ทำอะไรก็ตาม ผลร้ายย้อนกลับมาสู่ตัวเอง
  3. ขายผ้า เอาหน้ารอด หมายถึง ยอมเสียทุกอย่างเพื่อรักษาชื่อเสียง
  4. ขายผ้าเอาหน้ารอด หมายถึง ยอมเสียสละของสำคัญของตนเพื่อรักษาชื่อเสียงตนเอาไว้
  5. ขิงก็รา ข่าก็แรง หมายถึง ต่างคนต่างแรง ไม่ยอมกัน เรื่องเล็กก็เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ไป เพราะทิฐิมานะ
  6. ขี่ช้างจับตั๊กแตน หมายถึง ทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ได้ผลไม่คุ้มกับที่ต้องเสียไป
  7. ขุดด้วยปาก ถากด้วยตา หมายถึง เหยียดหยามทั้งวาจา และสายตามองแบบดูถูก
  8. เข็นครกขึ้นภูเขา หมายถึง ทำงานที่ยากลำบากต้องใช้ความเพียรพยายามและอดทนมาก
  9. เข้าตามตรอก ออกตามประตู หมายถึง ทำอะไรให้ถูกต้องตามขนบธรรมเนียมประเพณี
  10. เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า ได้หน้าอย่าลืมหลัง หมายถึง อย่าประมาทต้องเตรียมให้พร้อม และให้มีสติกำหนดจดจำให้ดี
  11. เข้าเมืองตาหลิ่ว ต้องหลิ่วตาตาม หมายถึง ประพฤติให้ถูกต้องตามกาลเทศะ เมื่อไปอยู่ในพวกเขาแล้ว ก็ต้องประพฤติคล้อยตามเขา
  12. เขียนเสือให้วัวกลัว หมายถึง ขู่ให้กลัว
  13. เขียนเสือให้วัวกลัว หมายถึง ทําอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้อีกฝ่ายหนึ่งเสียขวัญหรือเกรงขาม
  14. คนดีตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ หมายถึง คนดีไปที่ไหนก็มีคนอยากคบหาสมาคมด้วย ไม่ลำบาก
  15. คนรักเท่าผืนหนัง คนชังเท่าผืนเสื่อ หมายถึง คนที่รักเรามีน้อยคล้ายผืนหนัง คนชังมีมาก อย่างกับเสื่อลำแพน
  16. คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับมาได้ หมายถึง ทำงานเป็นทีมจะให้สถานการณ์ที่ดีกว่า
  17. คนในข้อ งอในกระดูก หมายถึง กมลสันดาน เกิดมาก็ชอบคดโกง
  18. คบคนดีมีศรีแก่ตัว คบคนชั่วอัปราชัย หมายถึง อัปราชัย ในที่นี้มีความหายเท่ากับ ปราชัย คือจะพ่ายแพ้ หมายถึงไม่เป็นมงคลแก่ตัว
  19. คบคนพาล พาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล หมายถึง คบใครก็จะเป็นคนอย่างนั้น
  20. คบคนให้ดูหน้า ซื้อผ้าให้ดูเนื้อ หมายถึง ก่อนคบค้าสมาคมกับใคร ดูที่มาที่ไปให้ดีๆ
  21. ความกตัญญูกตเวทีเป็นเครื่องหมายของคนดี หมายถึง มีความสำนึกในความดีของสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา กตเวที แปลว่า การตอบแทนต่อสิ่งหรือบุคคลที่มีพระคุณต่อเรา คนที่มีคุณสมบัตินี้ จะทำให้ตนเองและครอบครัวพบแต่ความเจริญรุ่งเรือง พบแต่ความสำเร็จ คุณสมบัตินี้ถือว่าเป็นทรัพย์อันประเสริฐในตัวบุคคล
  22. ความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด หมายถึง แม้จะมีความรู้สูงแค่ไหนก็ตาม ถ้าความประพฤติไม่ดีแล้วก็เอาตัวไม่รอด เพราะไม่มีใครคบหาสมาคมด้วย หรือมีความรู้ แต่ไม่ใช้ความรู้ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไร
  23. ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก หมายถึง มีเรื่องราวเดือดร้อนเกิดขึ้น ยังไม่ทันจะแก้ไขหรือจัดการให้สงบดี ก็เกิดมีเรื่องใหม่ซ้อนขึ้นมาอีก กลายเป็น 2 เรื่องขึ้นในคราวเดียว
  24. คอหอยกับลูกกระเดือก หมายถึง เข้ากันได้ดีแยกกันไม่ออกสนิทสนมกัน
  25. คับที่อยู่ได้ คับใจอยู่ยาก หมายถึง ที่อยู่อาศัย แม้จะคับแคบเพียงใด ถ้ารู้จักทำให้ดี ก็น่าอยู่ แต่ถ้าหากมีความคับอกคับใจแล้ว แม้ที่จะกว้างขวางใหญ่โต ก็มิได้ทำให้สบายอกสบายใจเลย มีแต่จะรู้สึกอึดอัดใจแต่ถ่ายเดียว
  26. คืบก็ทะเล ศอกก็ทะเล หมายถึง อย่าประมาททะเล แค่คืบแค่ศอกก็ทะเล ตกไปก็มีหวังจมน้ำตายทั้งนั้น
  27. ฆ่าควายก็ต้องไม่เสียดายพริก หมายถึง ถ้าคิดจะทำงานใหญ่ทั้งที ก็ต้องไม่กลัวหมดเปลือง
  28. ฆ่าควายเสียดายพริก หมายถึง การจะกระทำการใหญ่ แต่กลัวว่าจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายเล็ก
  29. ฆ่าช้างจะเอางา คนเจรจาจะเอาถ้อยคำ หมายถึง ที่เขาฆ่าช้างก็เพราะเขาหวังจะเอางาซึ่งมีราคาแพง เมื่อคนเราเจรจากัน ถ้อยคำหรือคำพูดถือเป็นเรื่องสำคัญมาก ควรจะเป็นคำพูดที่มีความจริงใจ เชื่อถือได้
  30. งมเข็มในมหาสมุทร หมายถึง ค้นหาสิ่งที่ยากจะค้นหาได้

 

คำสุภาษิตหมวด จ. - ต.

  1. จับงูข้างหาง หมายถึง ทำสิ่งที่เสี่ยงต่ออันตราย
  2. จับปลาสองมือ หมายถึง การที่คน ๆ หนึ่งทำสิ่งใดที่ยากพร้อม ๆ กัน ทำให้ล้มเหลวทั้งสองสิ่งนั้น สำนวนนี้นิยมใช้กับผู้ชายที่เกี้ยวผู้หญิงสองคนในเวลาเดียวกัน ซึ่งผลสุดท้ายแล้วผู้ชายคนนั้นจะมีปัญหาตามมา
  3. จับเสือมือเปล่า หมายถึง หาผลประโยชน์โดยตัวเองไม่ลงทุน
  4. จำศีลเอาหน้า ภาวนาโกหก หมายถึง แสร้งทำเป็นว่าถือศีลเคร่งครัด ชอบเจริญภาวนาเข้ากรรมฐาน ที่ลวงให้คนอื่นเข้าใจว่าตนเป็นมีศีลมีธรรม เขาจะได้เชื่อถือไว้วางใจ
  5. ชักแม่น้ำทั้งห้า หมายถึง โนมน้าวใจ เพื่อให้เชื่อถือตน
  6. ชั่วช่างชี ดีช่างสงฆ์ หมายถึง ใครจะเป็นอะไรก็ช่าง ไม่ควรถือเอาเป็นธุระ
  7. ชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน หมายถึง ชีวิตคนเราเอาแน่นอนอะไรไม่ได้ เดี๋ยวรุ่งเรือง เดี๋ยวตกอับ ดังนั้นเมื่อถึงคราวตกอับ ก็อย่าเพิ่งท้อถอย หรือหมดอาลัยในชีวิต และเมื่อถึงคราวรุ่งเรือง มีอำนาจวาสนา ก็อย่าลืมตัว อย่าประมาท
  8. ช้าๆ ได้พร้าสองเล่มงาม ด่วนได้สามผลามมักพลิกแพลง หมายถึง จะทำอะไรก็ทำอย่างมีสติ รอบคอบ แม้จะช้าไปบ้างก็ได้ผลดี แต่ถ้าทำอย่างรีบร้อน ไม่พินิจพิเคราะห์ให้ดีก่อน อาจผิดพลาดเสียหายได้ง่าย
  9. ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิด หมายถึง ช้างเป็นสัตว์ใหญ่ ใบบัวมีขนาดเล็ก ถ้าเอาใบบัวใบเดียวไปปิดช้าง ย่อมปิดไม่มิด คนที่ทำความชั่วไว้มากมาย ถึงจะปิดอย่างไรๆ ก็ปิดไม่หมด คนย่อมรู้เข้าจนได้
  10. ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวมาปิด หมายถึง ความผิดร้ายแรงที่คนรู้ทั่วกันแล้ว จะปิดอย่างไรก็ไม่มิด
  11. ช้างสาร งูเห่า ข้าเก่า เมียรัก อย่าได้ไว้วางใจ หมายถึง ช้างสารและงูเห่า เป็นสัตว์เดรัจฉานไว้ใจไม่ได้ ข้าเก่าและเมียรัก เป็นบุคคลที่ใกล้ชิด ย่อมรู้เรื่องราวและความลับของเราหมด บุคคลประเภทนี้ ถ้ากลับกลายเป็นศัตรูแล้วจะเป็นศัตรูที่ร้ายที่สุด ดังนั้นจึงไม่ควรไว้วางใจจนเกินไป
  12. ชาติเสือต้องไว้ลาย ชาติชายต้องไว้ชื่อ หมายถึง ลูกผู้ชายที่ชื่อว่าตนมีความเก่งกล้าสามารถ จะต้องสำแดงวิชาความรู้และความสามารถให้ลือชาปรากฏแก่คนทั่วไป ดุจเสือ (ลายพาดกลอน) ก็ต้องมีลายฉะนั้น
  13. ใช้แมวไปขอปลาย่าง หมายถึง แมวก็กินปลาย่างหมด เพราะตามปรกติแมวก็ชอบกินปลา
  14. ดูช้างให้ดูหน้าหนาว ดูสาวให้ดูหน้าร้อน หมายถึง หน้าหนาวช้างจะตกมัน ตอนนี้แหละเราจะเห็นลักษณะท่าทางของช้างว่ามีความห้าวหาญดุดันอย่างไร หน้าร้อนอากาศอ้าว ผู้หญิงก็ใช้ผ้าน้อยชิ้น หรือผ้าบางๆ ทำให้มองเห็นรูปร่างทรวดทรงและผิวพรรณของผู้หญิงว่าสวยงามแค่ไหนเพียงใด
  15. ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูให้แน่ต้องดูถึงย่าถึงยาย หมายถึง วัวที่มีลักษณะดีนั้นให้ดูที่หาง ถ้าปลายหางเป็นพู่เหมือนใบโพธิ์ ก็นับว่าเป็นวัวที่มีลักษณะดีมาก การที่จะเลือกผู้หญิงมาเป็นคู่ครอง ไม่ใช่ดูเพียงตัวผู้หญิงเท่านั้น ต้องดูไปจนถึงแม่ด้วยว่าเป็นคนดีหรือไม่ เพราะลูกกับแม่ก็มักจะมีลักษณะนิสัยคล้ายคลึงกัน และถ้าจะดูให้แน่จริงๆ ต้องสืบประวัติไปจนถึงย่ายายของหญิงนั้นด้วย
  16. ได้ทีขี่แพะไล่ หมายถึง ไปซ้ำเติม เยาะเย้ยเมื่อคนอื่นเพลี่ยงพล้ำ
  17. ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน หมายถึง
  18. ตบมือข้างเดียวไม่ดัง หมายถึง ทำอะไรฝ่ายเดียวไม่เกิดผล
  19. ต่อหน้ามะพลับ ลับหลังตะโก หมายถึง ต่อหน้าทำอย่างหนึ่ง ลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง แบบหน้าไหว้ หลังหลอก
  20. ตักน้ำใส่กะโหลก ชะโงกดูเงา หมายถึง ให้รู้จักเจียมเนื้อเจียมตัวไว้บ้าง
  21. ตักบาตรอย่าถามพระ หมายถึง จะให้อะไรแก่ใคร เมื่อทราบว่าเขาเต็มใจรับอยู่แล้ว ก็ไม่ต้องถามว่าจะเอาไหม
  22. ตาบอดได้แว่น หมายถึง คนที่มีสิ่งที่ตัวเองใช้ประโยชน์ไม่ได้ มักใช้คู่กับ หัวล้านได้หวี
  23. ตามใจปากมากหนี้ หมายถึง เห็นแก่กินย่อมสิ้นเปลืองมาก
  24. ตำข้าวสารกรอกหม้อ หมายถึง ทำพอให้เสร็จไปแค่ครั้งหนึ่ง ๆ พอพรุ่งนี้จะเอา ค่อยทำใหม่
  25. ตีงูให้กากิน หมายถึง ทำสิ่งที่ตนควรจะได้รับประโยชน์ แต่กลับไม่ได้ ตกอยู่กับผู้อื่นซะเนี่ย
  26. ตีตนก่อนไข้ หมายถึง กังวลทุกข์ร้อนก่อนในเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น
  27. ตีนถีบปากกัด หมายถึง มานะพยายามทำงานทุกอย่างเพื่อปากท้อง โดยไม่ห่วงคำนึงถึงความลำบาก

คำสุภาษิตหมวด ถ. - ป.

  1. ถ้าไม่มีไฟ ที่ไหนจะมีควัน หมายถึง เมื่อมีผลออกมา มันต้องมีเหตุแน่ ๆ
  2. ถี่ลอดตาช้าง ห่างลอดตาเล็น หมายถึง ทำอะไรดูเหมือนจะละเอียดถี่ถ้วนดี แต่ความจริงแล้วไม่รอบคอบ หรือบางทีก็ดูเหมือนจะใช้สอยอย่างกระเหม็ดกระแหม่ในบางเรื่องแต่อีกเรื่องหนึ่งกลับสุรุ่ยสุร่าย
  3. ทำนาออมกล้า ทำปลาออมเกลือ หมายถึง ทำการสิ่งใด ถ้ากลัวหมดเปลืองย่อมไม่ได้ผล
  4. นอนสูงให้นอนคว่ำ นอนต่ำให้นอนหงาย หมายถึง เมื่อนอนในที่สูง ถ้านอนคว่ำ อะไรผ่านไปผ่านมาข้างล่างก็มองเห็นหมด และเมื่อนอนในที่ต่ำ ถ้านอนหงาย อะไรผ่านไปผ่านมาข้างบนก็มองเห็นหมด ถ้านอนต่ำแล้วนอนคว่ำหน้าจะจดพื้น มองไม่เห็นอะไร
  5. นายว่า ขี้ข้าพลอย หมายถึง ลักษณะของคนเลว ไร้ความรู้ ถ้าเจ้านายว่าอย่างไร ก็มักจะพลอยประสมโรงซ้ำเติมด้วย
  6. น้ำขึ้นให้รีบตัก หมายถึง เมื่อเวลามีบุญมีวาสนา อย่างจะทำความดีอะไรก็รับทำๆ เสีย
  7. น้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งโหรงเหรง หมายถึง พูดมากได้สาระน้อย
  8. น้ำท่วมปาก หมายถึง การรู้อะไรแล้วพูดไม่ได้ พูดไม่ออกไม่สามารถพูดออกมาได้ เพราะมีความจำเป็นบางอย่างหรือเพราะเกรงจะมีภัยมาถึงตนเองแก่ตนหรือผู้อื่นที่เกี่ยวข้องด้วย รู้แล้วพูดออกมาไม่ได้ รู้สึกอึดอัด เหมือนน้ำท่วมปาก
  9. น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า หมายถึง ทุกคนต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องเห็นอกเห็นใจกัน จึงควรผูกไมตรีกันไว้
  10. น้ำลด ตอผุด หมายถึง ความชั่วเมื่อทำไว้ในเวลาที่ตนมีอำนาจนั้น อาจไม่มีใครทราบ แต่เมื่อหมดบุญ หมดอำนาจ บรรดาความชั่วที่ปิดบังกันไว้นั้น ก็จะปรากฏออกมา
  11. น้ำลดตอผุด หมายถึง เมื่อหมดอำนาจ ความชั่วที่ทำไว้ก็ปรากฎ
  12. น้ำลึกหยั่งได้ น้ำใจหยั่งยาก หมายถึง น้ำลึกเป็นเรื่องรูปธรรม เราหาวัตถุมาวัดได้ แต่น้ำใจเป็นเรื่องนามธรรม ไม่มีเครื่องวัด
  13. น้ำเชี่ยว อย่าขวางเรือ หมายถึง เมื่อมีเหตุการณ์รุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็อย่าไปขัดขวาง จะได้รับอันตราย เพราะตอนนี้ตนอยู่ในระยะหน้าสิ่งหน้าขวาน คนเรามักไม่มีเหตุผลดุจนน้ำเชี่ยว ถ้าเอาเรือไปขวาง เรือก็จะล่ม
  14. เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รองนั่ง เอากระดูกมาแขวนคอ หมายถึง ทั้งๆ ที่ตนไม่มีส่วนได้เป็นผลประโยชน์กับเขาเลย แต่ก็พลอยเข้าไปพัวพันในเรื่องร้าย ทำให้ต้องพลอยรับบาปรับเคราะห์เสียหายไปกับเขาด้วย
  15. บุญมา ปัญญาช่วย ที่ป่วยก็หาย ที่หน่ายก็รัก หมายถึง ในเวลาที่มีบุญวาสนา สติปัญญาก็ปลอดโปร่ง กำลังใจดี แม้จะเจ็บไข้ได้ป่วย ก็จะหายวันหายคืน เพราะเขาหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากผู้มีวาสนานั้น และจะมีภาษิตต่อท้ายอีกว่า “บุญไม่มา ปัญญาไม่ช่วย ที่ป่วยก็หนัก ที่รักก็หน่าย” ซึ่งมีนัยตรงข้ามกัน
  16. ปล่อยเสือเข้าป่า ปล่อยปลาลงน้ำ หมายถึง ปล่อยศัตรูสำคัญหรือโจรผู้ร้าย ที่ตกอยู่ในอำนาจให้พ้นไปนั้น จะทำให้เขากลับมีกำลังและอาจกลับเข้ามาก่อความเดือดร้อนได้อีก
  17. ปลาข้องเดียวกัน ตัวหนึ่งเน่า ก็พาตัวอื่นพลอยเหม็นไปด้วย หมายถึง คนที่อยู่ร่วมกัน ถ้าคนหนึ่งไปทำชั่ว ทำไม่ดีไว้ ก็จะพลอยทำให้คนอื่นเสียหายไปด้วย
  18. ปลาหมอตายเพราะปาก หมายถึง คนที่ชอบพูดอะไรพล่อยๆ มักจะได้รับอันตรายเพราะปากที่พูดพล่อยๆ นั้น
  19. ปลาหมอตายเพราะปาก หมายถึง คนที่พูดจาไม่ระวังจนนำอันตรายหรือความลำบากมาสู่ตนเอง
  20. ปลูกเรือนต้องตามใจผู้อยู่ ผูกอู่ต้องตามใจผู้นอน หมายถึง จะทำอะไรก็ต้องตามใจผู้ที่จะได้รับผล เหมือนปลูกเรือนต้องปลูกตามที่ผู้อยู่ต้องการ ไม่ใช่ตามที่ช่างต้องการ เพราะช่างหรือสถาปนิกไม่ใช้ผู้อาศัย ผูกอู่ก็คือผูกเปล ก็ต้องให้ถูกใจผู้นอน
  21. ปากคนยาวกว่าปากกา หมายถึง ตามปรกติปากของอีกายาวกว่าปากคน แต่ปากคนนั้นพูดเล่าลือต่อปากกันไปได้ไกล ผิดกับกาแม้ปากจะยาว แต่ก็ต่อปากต่อคำอย่างคนไม่ได้
  22. ปากว่าตาขยิบ หมายถึง พูดอย่างหนึ่งแต่ทำอีกอย่างหนึ่ง ปากกับใจไม่ตรงกัน
  23. ปากหวานก้นเปรี้ยว หมายถึง พูดจาอ่อนหวาน แต่ไม่จริงใจ
  24. ปากเป็นเอก เลขเป็นโท หนังสือเป็นตรี ชั่วดีเป็นตรา หมายถึง สมัยก่อนการศึกษาเล่าเรียนเขียนอ่านยังไม่แพร่หลาย คนที่รู้หนังสือมีน้อย บางคนก็ได้ดีเพราะปาก การคิดเลขหรือการคำนวณนั้นมีความสำคัญน้อยลงมาอีก แม้เดี๋ยวนี้คนที่มีความรู้ดีแต่พูดไม่เก่ง ก็เอาดีได้ยาก ส่วนความชั่วความดีนี้ ทำลงไปแล้วย่อมเป็นเสมือนตราที่ประทับลงไปให้รู้ว่าคนนั้นเป็นคนดี หรือคนชั่ว
  25. ปิดทองหลังพระ หมายถึง ทำดีโดยไม่ต้องเป่าประกาศ หรืออาจจะใช้ในประโยคทำนองพ้อว่าทำดีแล้วไม่มีใครรู้
  26. ไปไหนมา สามวาสองศอก หมายถึง ถามอย่างหนึ่ง ตอบไปอีกอย่างหนึ่ง

คำสุภาษิตหมวด ป. - ม.

  1. ผัวหาบ เมียคอน หมายถึง ช่วยกันทำมาหากินทั้งผัวและเมีย
  2. ฝนตกไม่ทั่วฟ้า หมายถึง ให้หรือแจกจ่ายอะไรไม่ทั่วถึงกัน
  3. ฝนทั่งให้เป็นเข็ม หมายถึง เพียรพยายามสุดความสามารถจนสำเร็จ
  4. พูดไปสองไพเบี้ย นิ่งเสียตำลึงทอง หมายถึง คำพูดบางครั้งหากพูดออกไปอาจจะก่อให้เกิดผลเสียต่อตนเองหรือคนรอบข้าง หากอยู่เฉยๆไม่พูดอะไรออกไปยังจะก่อเกิดผลลัพธ์ที่ดีกว่า
  5. ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า หมายถึง เรื่องราวไม่ดีภายในครอบครัว / องค์กร / หน่วยงาน ไม่ควรนำไปเล่าให้คนภายนอกฟัง และเรื่องราวไม่ดี คำนินทาว่าร้ายที่คนภายนอกพูดถึงคนภายในก็ไม่ควรนำมาเล่าให้ฟัง
  6. มะนาวไม่มีน้ำ หมายถึง พูดห้าว ๆ หรือ พูดไม่มีหางเสียง
  7. มีเงินมีทองเจรจาได้ มีไม้มีไร่ปลูกเรือนงาม หมายถึง ถ้ามีเงินมีทองแล้วจะพูดอะไรก็มักจะสำเร็จ ถ้ามีไม้มีที่แล้ว ก็ย่อมปลูกเรือนได้สวยงาม
  8. มีเงินเขานับว่าเป็นน้อง มีทองเขานับว่าเป็นพี่ หมายถึง เมื่อมั่งมีเงินมีทองแล้ว ใครๆ ก็ประจบอยากเข้ามาเป็นญาติพี่น้องด้วย
  9. มือถือสาก ปากถือศีล หมายถึง ชอบแสดงตัวตนว่าเป็นคนมีศีล มีธรรม แต่ทำความเลวเป็นนิจ
  10. มือห่าง ตีนห่าง หมายถึง สุรุ่ยสุร่าย เลินเล่อ สะเพร่า ไม่ระมัดระวัง
  11. ไม่มีมูลฝอยหมาไม่ขี้ หมายถึง ถ้าไม่มีอะไรเป็นเค้ามูลอยู่ ก็ย่อมไม่มีเรื่องเกิดขึ้น
  12. ไม้ล้มข้ามได้ คนล้มอย่าเพิ่งข้าม หมายถึง ไม้ล้มข้ามไปไม่มีอันตรายอะไร แต่คนที่เคยมีอำนาจวาสนา แล้วหมดอำนาจ อย่าไปซ้ำเติมเขา เพราะเขาอาจกลับมามีอำนาจอีกได้
  13. ไม้ลำเดียวยังต่างปล้อง พี่กับน้องยังต่างใจ หมายถึง คือคนเรา นานาจิตตัง มีความเห็นไม่เหมือนกัน เหมือนไม้ไผ่ลำเดียวกัน ก็มีหลายปล้อง แต่ละปล่องก็ยาวไม่เท่ากัน พี่น้องแม้ท้องเดียวกัน แต่ความคิดเห็นก็ไม่จำเป็นจะต้องเหมือนกัน
  14. ไม่หลักปักไม้เลน หมายถึง โลเล ไม่แน่นอน
  15. ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก เหมือนไม้แก่ถ้าดัดก็หัก ผิดกับไม้อ่อนซึ่งดัดง่ายไม่หัก
  16. ไม่เห็นน้ำ อย่าเพิ่งตัดกระบอก ไม่เห็นกระรอก อย่าเพิ่งโก่งหน้าไม้ หมายถึง อย่าด่วนทำอะไรล่วงหน้า โดยที่ยังไม่ทราบว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในภายหน้า จะเหนื่อยเปล่า

คำสุภาษิตหมวด ย. - ล.

  1. ยกตนข่มท่าน หมายถึง พูดทับถมผู้อื่นแสดงให้เห็นว่าตัวเหนือกว่า
  2. รักดีหามจั่วรักชั่วหามเสา หมายถึง ใฝ่ดีจะมีความสุขความเจริญ ใฝ่ชั่วจะได้รับความลําบาก
  3. รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ หมายถึง รักจะคบกันนาน ๆ ให้ตัดความคิดอาฆาตพยาบาทออกไป รักจะอยู่สั้น ๆ ให้คิดอาฆาต
  4. รักวัวให้ผูก รักลูกให้ตี หมายถึง วัวถ้าไม่ผูกไว้ ก็อาจหายได้ ถ้าลูกดื้อ พ่อแม่ก็ต้องดุต้องตีบ้าง แต่การที่พ่อแม่ตีไม่ใช่ตีด้วยความเกลียดชัง เพราะพ่อแม่ที่ตีนั้นก็ไม่อยากตี บางทีตีแล้วแอบไปร้องไห้ สงสารลูกก็มี แต่ถ้าไม่ตีเสียบ้าง ต่อไปถ้าลูกกลายเป็นคนชั่วช้าเลวทราม พ่อแม่จะต้องเสียน้ำตามากกว่านั้น
  5. รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง หมายถึง การรู้จักหลบหลีกเอาตัวรอดจากปัญหา สถานการณ์ที่ลำบากหรืออันตรายได้
  6. รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง หมายถึง รู้จักเอาตัวรอดหรือปรับตัวให้เข้ากับเหตุการณ์
  7. รู้ไว้ใช่ว่า ใส่บ่าแบกหาม หมายถึง การศึกษาหาความรู้ไว้ ยิ่งมากยิ่งดี เพราะการมีความรู้มาก ไม่เหมือนการแบกข้าวแบกของ ซึ่งจะรู้สึกว่าหนักบ่า มีความรู้มิได้หนักบ่าหนักแรงอะไร ความรู้ที่เวลานี้เราคิดว่าไม่มีประโยชน์ วันหน้าอาจเห็นคุณค่าของมันก็ได้
  8. เรือล่มเมื่อจอด ตาบอดเมื่อแก่ หมายถึง ทำอะไรต่ออะไรดีมาตลอด แต่พอเสร็จกลับไม่ได้ผลอะไร หรือมาล้มเหลวเมื่อปลายมือ หรือในตอนท้าย
  9. เรือล่มในหนอง ทองจะไปไหน หมายถึง เมื่อจะต้องสูญเสียอะไรไปอย่างไม่มีทางที่จะสูญเปล่า ก็ไม่ต้องวิตกทุกข์ร้อนอะไร
  10. ลงเรือแป๊ะ ต้องตามใจแป๊ะ หมายถึง เมื่ออะไรๆ ต้องอาศัยเขา ก็ต้องตามใจเขา ถ้าไปขัดใจเขา เขาอาจไม่ช่วยเราหรือไล่เราออกก็ได้
  11. ลมไม่พัด ใบไม้ไม่ไหว หมายถึง ไม่มีอะไรเป็นเค้ามูลมาก่อนแล้ว ก็คงไม่มีเรื่องมีราวเกิดขึ้นเป็นแน่
  12. เล่นกับหมา หมาเลียปาก เล่นกับสาก สากต่อยหัว หมายถึง ถ้าลดตัวไปเล่นหัวกับคนชั้นต่ำกว่า เขาก็อาจตีเสมอทำลวนลามเอา สากในที่นี้หมายถึงสากตำข้าวที่เขาพิงไว้ ถ้าใครซุกซนไปจับต้องเข้า สากอาจเลื่อนล้มทับถูกหัวถูกหูก็ได้
  13. เลี้ยงช้าง กินขี้ช้าง หมายถึง หาเศษหาเลยหรือมีผลประโยชน์พลอยได้จากหน้าที่ที่ตนทำเปรียบเหมือนคนเลี้ยงช้าง ซึ่งช้างก็มีค่าหญ้าอันเป็นส่วนของช้าง คนเลี้ยงช้างอาจเบียดบังเอาส่วนหนึ่งของค่าหญ้าเป็นผลประโยชน์ของตัว
  14. เลือกนักมักได้แร่ หมายถึง เลือกไปเลือกมา ในที่สุดมักจะไปได้ที่ไม่ดี มักใช้ในกรณีเลือกคู่ เลือกไปเลือกมาในที่สุดไปได้คนที่ไม่ดีมาเป็นคู่ครอง แร่ในที่นี้หมายถึงขี้แร่ หรือแร่เลวๆ ที่ไม่มีค่าอะไรกัน
  15. โลภมาก ลาภหาย หมายถึง โลภมากเกินไป ในที่สุดจะไม่ได้อะไรเลย ท่าสอนให้รู้จักมีความพอประมาณไว้บ้าง

คำสุภาษิตหมวด ว. - ห.

  1. วัวสันหลังขาด เห็นกาบินผาดก็ตกใจ หมายถึง คนที่มีความผิดติดตัว มักจะมีพิรุธ มีอาการหวาดระแวงอยู่เสมอ กลัวคนอื่นจะรู้ เหมือนวัวสันหลังหวะเป็นแผล พอเห็นกาบินมาก็หวาดกลัว เกรงว่ากาจะโฉบลงมาจิกที่แผลนั้น บางทีก็พูดว่า “วัวสันหลังหวะ”
  2. วัวหายแล้วจึงล้อมคอก หมายถึง เมื่อเกิดเสียหายขึ้นมาแล้วจึงหาทางป้องกันในภายหลัง ซึ่งนับว่าไม่ทันการณ์ ควรจะล้อมคอกเสียก่อนที่วัวจะหาย
  3. วัวเห็นแก่หญ้า ขี้ข้าเห็นแก่นอน หมายถึง หมายถึงคนที่เห็นแก่ได้ เห็นแก่กิน และเกียจคร้าน
  4. วัวใครก็เข้าคอกคนนั้น หมายถึง ส่วนของใครก็เป็นของคนนั้น ไม่ก้าวก่ายหรือก้ำเกินในผลประโยชน์ของกันและกัน
  5. ว่าแต่เขา อิเหนาเป็นเอง หมายถึง พูดว่าคนอื่นอย่างไร ตนเองก็กลับเป็นอย่างนั้นเสียเองเหมือนอิเหนาที่ปรารภว่าไม่รักไม่ต้องการบุษบา แต่ตัวเองกลับลักพาบุษบาไป
  6. สองฝักสองฝ่าย หมายถึง ทำตัวเข้ากับ 2 ฝ่ายที่ไม่ถูกกัน โดยหวังประโยชน์เพื่อตน
  7. สอนเด็ก สอนง่าย สอนผู้ใหญ่ สอนยาก หมายถึง จะอบรมสั่งสอนอะไรก็ทำเสียตั้งแต่เด็ก เพราะอบรมสั่งสอนง่าย จะสอนให้เป็นอะไรก็ได้ ส่วนคนแก่นั้นสอนยาก เหมือนไม้แก่ถ้าดัดก็หัก ผิดกับไม้อ่อนซึ่งดัดง่ายไม่หัก
  8. สาวไส้ให้กากิน หมายถึง เอาความลับของตน หรือพวกตนไปเผยให้คนอื่นรู้เป็นการประจานตน
  9. สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง หมายถึง คนเราแม้จะมีความรู้สูงอย่างนักปราชญ์ ก็อาจผิดพลาดได้เหมือนกัน ทุกคนจึงไม่ควรประมาท แม้สัตว์สี่เท้าเช่น วัวควายซึ่งมีสี่เท้าก็ยังอาจก้าวพลาดถึงล้มลงได้ ภาษิตนี้บางทีก็มีพูดต่อไปอีกว่า “สี่ตีนยังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง สองตีนโด่เด่ คงจะเซลงบ้าง”
  10. เส้นผมบังภูเขา หมายถึง เรื่องง่าย ๆ แต่คิดไม่ออก เหมือนมีอะไรมาบังอยู่
  11. เสน่ห์ปลายจวัก ผัวรักจนตาย หมายถึง ผู้หญิงที่จะผูกมัดจิตใจสามีได้ ไม่ใช่เพียงเพราะความสวยอย่างเดียว เพราะความสวยงามเป็นของไม่จีรังยั่งยืนอะไร แต่ความดีโดยเฉพาะฝีมือในการปรุงอาหาร ถ้าหากสามารถทำให้ถูกปากสามีได้ ย่อมผูกใจสามีให้รักไปจนตาย
  12. เสียทองเท่าหัว ไม่ยอมเสียผัวให้ใคร หมายถึง เดิมเราถือกันว่า ผู้หญิงที่เป็นแม่ร้างเพราะสามีหนีไปนั้น แสดงว่าผู้หญิงผู้นั้นต้องมีอะไรบกพร่องเลวร้าย สังคมมักคิดว่าเป็นผู้หญิงไม่ดี เพราะฉะนั้นผู้หญิงจึงไม่ยอมเสียสามีให้แก่หญิงใด เพราะเท่ากับเสียศักดิ์ศรีของตน แต่ในปัจจุบันอาจได้ยินบางคนพูดว่า “ถ้าได้ทองเท่าหัว ใครอยากได้ผัวก็เอกไป” แสดงว่าคนเดี๋ยวนี้เห็นแก่เงินมากขึ้น
  13. เสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย หมายถึง เวลาจะต้องเสียงเพียงเล็กน้อย ไม่อยากจะเสีย แต่พอถึงคราวต้องเสียมากๆ รับควักเงินให้ทันที อย่างข้าวของที่ชำรุดไปเล็กน้อย แทนที่จะรีบซ่อมแซมเสีย กลับปล่อยให้เสียมาก แล้วจึงซ่อมแซม ซึ่งต้องหมดเงินมากกว่าหลายเท่า

 

คำสุภาษิตหมวด ห. - ฮ.

  1. หงิม ๆ หยิบชิ้นปลามัน หมายถึง บุคลิกลักษณะเรียบร้อย แต่ความจริงฉลาด เลือกเอาดี ๆ ไปได้
  2. หญิงสามผัว ชายสามโบสถ์ อย่าได้คบ หมายถึง แสดงว่ามีจิตใจรวนเร คบเป็นเพื่อนตายไม่ได้ เพราะเมื่อถึงคราวคับขัน อาจปลีกตัวหนีเอาตัวรอดไปตามลำพังได้
  3. หนามยอกเอาหนามบ่ง หมายถึง ตอบโต้หรือแก้ด้วยวิธีการทำนองเดียวกัน
  4. หน้าเนื้อใจเสือ หมายถึง หน้าตาแสดงความเมตตา แต่ใจโหดเหี้ยม
  5. หมาขี้ไม่มีใครยกหาง หมายถึง หมายถึงคนที่ชอบยกย่องตัวเอง
  6. หยิกเล็บเจ็บเนื้อ หมายถึง เมื่อทำความเดือดร้อนให้แก่คนใกล้ชิด ก็จะมีผลกระทบถึงตัวผู้ทำหรือพวกพ้อง
  7. หาเหาใส่หัว หมายถึง รนหาเรื่องเดือดร้อน รำคาญใส่ตน
  8. หุงข้าวประชดหมา ปิ้งปลาประชดแมว หมายถึง การทำอะไรเพื่อประชดประชัน ไม่ได้ประโยชน์อะไร ผลเสียจะตกแก่ตน ส่วนผลดีจะไปได้แก่คนที่เราประชดให้
  9. เหยียบเรือสองแคม หมายถึง ทำทีเข้าด้วยทั้ง 2 ฝ่าย
  10. ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว หมายถึง ทำทุกข์ให้แก่ผู้ใด เคราะห์กรรมที่ทำกับเขา อาจตกตามมาถึงตัวเองบ้าง อย่างบางคนชอบล่าสัตว์ บางทีไปยิงลูกของตน โดยเข้าใจว่าเป็นสัตว์ป่าก็มี
  11. อดเปรี้ยวไว้กินหวาน หมายถึง ให้มีความอดทน อดใจรอผลข้างหน้าที่จะดีกว่า คือละทิ้งสิ่งที่ไม่ดี เพราะอดใจรอเอาสิ่งที่ดีกว่า
  12. อย่าข่มเขาโคขืนให้กินหญ้า หมายถึง อย่าบังคับขืนใจผู้อื่นให้ทำตามใจตน
  13. อย่าคบคนจร นอนหมอนหมิ่น หมายถึง อย่าคบคนจร ที่เราไม่รู้จักหัวนอนปลายเท้าหรือไม่รู้จักประวัติเสียก่อน
  14. อย่าชักน้ำเข้าลึก อย่าชักศึกเข้าบ้าน หมายถึง บางทีก็พูดว่า “อย่าชักเรือเข้าลึก” หมายความว่า อย่าทำอะไรที่เป็นเหตุให้อันตรายมาถึงตัว
  15. อย่าชิงสุกก่อนห่าม หมายถึง ตามปรกติผลไม้ เช่นมะม่วงก่อนจะสุก จะต้องห่ามเสียก่อน การกระทำอะไรต้องให้เป็นไปตามจังหวะขั้นตอนของมัน ถ้าทำผิดลำดับอาจเสียหาย เหมือนผลไม้ที่ยังไม่แก่ เอามาบ่มแม้จะสุก แต่ก็จะเข้าทำนองหัวหวานก้นเปรี้ยว หรือยังเรียนหนังสือไม่จบ ยังหาเงินไม่ได้ ริมีลูกมีเมียเสียก่อน ตัวเองก็จะเดือดร้อนลูกเมียก็จะพลอยเดือดร้อนไปด้วย
  16. อย่าชี้โพรงให้กระรอก หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว เหมือนกับกระรอกมันย่อมรู้จักโพรงของมัน ไม่ต้องไปชี้บอกกับมันดอก
  17. อย่าตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ หมายถึง อย่าทำอะไรที่ต้องเสียทรัพย์โดยไม่ได้ประโยชน์คุ้มกับเงินทองที่ต้องเสียไป เหมือนตำน้ำพริกเพียงครกหนึ่งแล้วเอาไปละลายในแม่น้ำ ซึ่งมีน้ำมาก จะทำให้น้ำในแม่น้ำกลายเป็นน้ำพริกอย่างในหม้อแกงไม่ได้
  18. อย่าติเรือทั้งโกลน หมายถึง เรือสมัยโบราณซึ่งเอาซุงทั้งต้นมาขุด เช่น เรือมาดที่เขาทำเป็นรูปร่างแล้วแต่ยังไม่แล้วเสร็จ อย่างเพิ่งไปด่วนติ
  19. อย่าทำตัวเป็นกิ้งก่าได้ทอง หมายถึง อย่าเย่อหยิ่งจองหองเพราะเพียงได้ดีหรือมีทรัพย์ขึ้นมาเพียงเล็กน้อย
  20. อย่าทำเป็นหมาเห่าใบตองแห้ง หมายถึง อย่าทำพูดอวดเก่ง หรือเก่งแต่ปาก
  21. อย่าฝากเนื้อไว้กับเสือ หมายถึง อย่าฝากสิ่งใดสิ่งหนึ่งไว้กับผู้ที่ชอบสิ่งนั้นเพราะตนจะต้องสูญเสียสิ่งนั้นไป
  22. อย่าฟื้นฝอยหาตะเข็บ หมายถึง อย่ารื้อเอาเรื่องเก่าๆ ที่ล่วงเลยไปแล้วขึ้นมาพูดให้สะเทือนใจกัน ฝอย ในที่นี้หมายถึง มูลฝอย กุมฝอย ตะเข็บ คล้ายตะขาบ แต่ตัวเล็กกว่ามาก ชอบอยู่ตามกุมฝอย
  23. อย่าละเลงขนมเบื้องด้วยปาก หมายถึง อย่าเป็นคนดีแต่พูด คือพูดได้ แต่ทำไม่ได้
  24. อย่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  25. อย่าสอนหนังสือสังฆราช หมายถึง คืออย่าไปสอนผู้รู้ เพราะเขารู้อยู่แล้ว
  26. อย่าหักด้ามพร้าด้วยเข่า หมายถึง อย่าใช้อำนาจบังคับอย่างหักโหมรุนแรง เพื่อให้ผู้อื่นทำตามความประสงค์ของตน เพราะนอกจากจะไม่สำเร็จแล้ว ตัวเองก็อาจเดือดร้อน
  27. อย่าเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้ หมายถึง อย่าเอาลูกโจรหรือลูกคนชั่วคนเลวมาเลี้ยง เพราะอาจสร้างความลำบากเดือดร้อนให้แก่ผู้เลี้ยงก็ได้
  28. อย่าเห็นขี้ดีกว่าไส้ หมายถึง อย่าเห็นผู้อื่นดีกว่าญาติพี่น้องลูกหลานของตน
  29. อย่าเอาจมูกคนอื่นหายใจ หมายถึง ต้องรู้จักช่วยตัวเอง อย่าคิดแต่จะพึงพาอาศัยคนอื่นเสมอไป ถ้าเราทำอะไรได้เองก็สะดวก แต่ถ้าต้องคอยอาศัยคนอื่นเขาร่ำไป ย่อมไม่ได้รับความสะดวก เหมือนคนมีรถยนต์แล้วขับไม่เป็น จะไปไหนทีก็ต้องพึ่งคนขับอยู่เรื่อย ถ้าเจ็บไข้ได้ป่วยเราก็ไปไม่ได้
  30. อย่าเอาทองไปลู่กระเบื้อง หมายถึง คืออย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่เสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
  31. อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ หมายถึง พิมเสนเป็นของมีค่างมากกว่าเกลือ คืออย่าลดตัวลงไปสู้กับคนชั่วต่ำ มีแต่เสียศักดิ์ศรี เพราะไม่คู่ควรกัน
  32. อย่าเอามะพร้าวห้าวไปขายสวน หมายถึง จะไม่ได้ประโยชน์อะไร เขาจะหัวเราะเยาะได้ เพราะในสวนเขาก็มีมะพร้าวอยู่แล้ว หมายความว่า อย่าเอาสิ่งของหรืออะไรก็ตามแสดงต่อผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในสิ่งนั้นเป็นที่ลือชาปรากฏอยู่แล้ว เพราะจะทำให้ดูเหมือนว่าตนเป็นคนโง่เขลา เบาปัญญา หรือเซ่อเซอะอะไรทำนองนั้น
  33. อย่าเอาลูกเขามาเลี้ยง อย่าเอาเมี่ยงเขามาอม หมายถึง อย่าเอาของคนอื่นมาชื่นชมยินดี
  34. อย่าแกว่งเท้าหาเสี้ยน หมายถึง อย่าหาเรื่องใส่ตัว การพูดหรือทำอะไรก้าวก่ายไปถึงผู้อื่นโดยมิบังควร ย่อมทำให้ตนได้รับความเดือดร้อนโดยไม่จำเป็น
  35. อย่าไว้ใจทาง อย่าวางใจคน จะจนใจเอง หมายถึง อย่าวางใจหรือไว้วางใจใครคนอื่นง่ายเกินไป จะเป็นเราที่เดือดร้อนในภายหลังได้
  36. อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น หมายถึง เมื่ออยู่บ้านใคร อย่าอยู่เปล่า ควรทำการทำงานช่วยเหลือเขาเท่าที่จะทำได้ แม้เพียงเอาดินเหนียวมาปั้นวัวปั้นควายให้ลูกเจ้าของบ้านเล่นก็ยังดี เขาจะได้เมตตาสงสาร
  37. อายครูไม่รู้วิชา อายภรรยาไม่มีบุตร หมายถึง อายในสิ่งที่ไม่ควรอาย อันทำให้ไม่เกิดประโยชน์
  38. เอามือซุกหีบ หมายถึง หาเรื่องเดือดร้อนหรือความลำบากใส่ตัวโดยใช่ที่
  39. เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ หมายถึง แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ไม่สนใจ

กลุ่มคำที่มีความคล้ายคลึงกับคำสุภาษิต

     หลายครั้งเราจะสับสนจนเกือบจะแยกไม่ออกเลยว่าคำคำหนึ่งนั้นเป็นคำสุภาษิตหรือไม่ เพราะอย่างที่เรารู้ ภาษาไทยนั้นมีความสละสลวย และคนไทยเป็นคนเจ้าบทเจ้ากลอน จะมีคำมีประโยคเพราะๆ ให้ใช้กันเยอะ แต่นอกจากจะเป็นคำสุภาษิตแล้วยังมีคำกลุ่มอื่นที่ใกล้เคียงกับคำสุภาษิตอยู่อีกคือ

สำนวนไทย

สำนวนไทย คือ คำที่พูดออกมาในลักษณะเปรียบเทียบ และจะฟังไม่เข้าในในทันทีต้องแปลความหมายก่อน เช่นเดียวกับรูปแบบที่สองของคำสุภาษิต

คำพังเพย

คำพังเพย คือ คำพูดที่ออกมาโดยที่ไม่ได้ตั้งใจว่าจะสั่งสอนอะไร ออกแนวพูดเปรียบเทียบว่าสถานการณ์นี้เป็นอย่างไร ส่วนใหญ่ก็มักจะแฝงคติเตือนใจ

คำคม

คำคม คือ ถ้อยคำสำนวนที่ใช้ในปัจจุบันทันด่วน ส่วนมากเป็นถ้อยคำที่หลักแหลม ฟังแล้วต้องยกนิ้วให้ ผู้ที่คิดคำคมต่าง ๆ ออกมามักจะเป็นผู้ที่ฉลาดปราดเปรื่อง นักปราชญ์ เช่นคำคมคนจีน เป็นต้น

คำขวัญ

คำขวัญ คือ คำที่แต่งมาเพื่ออธิบายพรรณนาให้เข้าใจเกี่ยวกับเหตุการณ์นั้น ๆ หรือวันสำคัญต่าง ๆ เช่นคำขวัญกรุงเทพมหานคร หรือคำขวัญวันเด็ก เป็นต้น


รูปประกอบสํานวนสุภาษิต

ช้างตายทั้งตัวเอาใบบัวมาปิด

ภาพประกอบ สำนวนสุภาษิต ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิด ภาพประกอบแบบไม่ลงสี สำนวนสุภาษิต ช้างตายทั้งตัว เอาใบบัวปิด

 

ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง

ภาพประกอบแบบไม่ลงสี สำนวนสุภาษิต ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง


Download PDF

สำหรับเพื่อน ๆ ที่ต้องการดาวน์โหลดไฟล์เพื่อไปเปิดอ่านหรือใช้งานด้านอื่นเอง เราได้เตรียมไฟล์ PDF แจกฟรีให้ด้วย สามารถกดที่ปุ่มดาวน์โหลดได้เลย

คำสุภาษิต พร้อมความหมาย
200 คำ เรียง ก-ฮ
PDF 156KB
Download

 


คิดว่าคงเต็มอิ่มจุก ๆ กับสํานวนสุภาษิตพร้อมความหมายทั้ง 200 คำกันแล้วนะครับ แต่สํานวนสุภาษิตไม่ได้มีเพียง 200 คำนี้เท่านั้นนะ ยังมีอีกหลายคำมาก ๆ หากหาคำไหนไม่เจอก็สามารถค้นหาเพิ่มเติมได้ และต่อไปน่าจะพอสามารถนำไปใช้งานได้อย่างถูกต้อง สื่อความหมายและตรงกับสถานการณ์ได้ยิ่งขึ้นกันครับ

Download PDF สํานวนสุภาษิต ที่ใช้บ่อย

สำหรับใครที่อยากได้สํานวนสุภาษิต ในรูปแบบไฟล์ PDF สามารถกดที่ปุ่มดาวน์โหลดได้เลย

สํานวนสุภาษิต ที่ใช้บ่อย
PDF – ตัวอย่าง สํานวนสุภาษิต ที่ใช้บ่อย
ดาวน์โหลด

 หมวดหมู่ สุภาษิตไทย

 ความคิดเห็นในหัวข้อ "สํานวนสุภาษิต พร้อมความหมาย"