พุทธสุภาษิตกาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเองกาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเองหมวดชีวิต-ความตาย ภาพประกอบ กาลเวลาย่อมกลืนกินสรรพสัตว์ทั้งหลาย พร้อมกันไปกับตัวมันเอง พุทธสุภาษิตที่คล้ายกันกรรมชั่วของตน นำตนไปสู่ทุคติกรรมย่อมจำแนกสัตว์ คือ ให้ทราม และประณีตกรรมไม่ดี และไม่เป็นประโยชน์แก่ตน ทำได้ง่าย ส่วนกรรมใดดีและเป็นประโยชน์ กรรมนั้นแลทำได้ยากอย่างยิ่งกามทั้งหลายที่ทำให้อิ่มได้ ไม่มีในโลกการงานใด ๆ ที่ย่อหย่อน ย่อมไม่มีผลมากการระมัดระวังกาย เป็นความดีการร้องไห้หรือโศกเศร้า จะช่วยให้จิตใจสงบ สบาย ก็หาไม่ ทุกข์ยิ่งเกิดเพิ่มพูนทับทวี ทั้งร่ายกายก็พลอยทรุดโทรมการสะสมบาป เป็นทุกข์การอุบัติขึ้นของพระพุทธเจ้า ทำให้เกิดสุขกาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยล่อมละลำดับไป ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำสุขมาให้กาลเวลา ย่อมกินสรรพสัตว์พร้อมทั้งตัวมันเองกาลเวลาล่วงไป ราตรีก็ผ่านไปแชร์บทความนี้ แชร์ กลับไปที่ "พุทธสุภาษิต"ก่อนหน้าชีวิตของเราเป็นของน้อย ชราและพยาธิก็คอยย่ำยีถัดไปคนใดร้องไห้บ่นเพ้อถึงคนที่ตายไปแล้ว แม้คนที่ร้องนั้นก็ต้องตายเหมือนกัน
การร้องไห้หรือโศกเศร้า จะช่วยให้จิตใจสงบ สบาย ก็หาไม่ ทุกข์ยิ่งเกิดเพิ่มพูนทับทวี ทั้งร่ายกายก็พลอยทรุดโทรม
กาลย่อมล่วงไป ราตรีย่อมผ่านไป ชั้นแห่งวัยล่อมละลำดับไป ผู้เล็งเห็นภัยในมรณะนั้น พึงทำบุญอันนำสุขมาให้
คนอกตัญญูค่อยจับผิดอยู่เป็นนิตย์ ขะทำให้เขาพอใจไม่ได้ ถึงจะให้แผ่นดินทั้งหมดแก่เขา ผู้มีปกติมองหาโทษอยู่เสมอ ก็จะทำให้เขาพอใจไม่ได้ หมายถึง
ศีลนั้นเทียวเป็นเลิศในโลกนี้ ส่วนผู้มีปัญญาเป็นผู้สูงสุด ความชนะในหมู่มนุษย์และเทวดา ย่อมมีเพราะศีลและปัญญา หมายถึง
เวทมนต์ ชาติกำเนิด พวกพ้อง นำสุขมาให้ในสัมปรายภพไม่ได้, ส่วนศีลของตนที่บริสุทธิ์ดีแล้ว จึงนำสุขมาให้ในสัมปรายภพได้ หมายถึง